ย่างก้าวรับ Pride Month กับ 7 เรื่องแห่งประวัติศาสตร์ชาวสีรุ้งที่เหล่า LGBT ต้องดู!
เดินทางเข้าสู่เดือน Pride Month เดือนของเหล่า LGBTQIA+ ดังนั้นวันนี้เอง ทาง SONGKHAO เลยอยากจะมาแนะนำ ให้ทุกท่านได้รู้จักกับ ซีรีส์ ภาพยนตร์ ทั้งหมด 7 เรื่อง ที่บอกเลยว่าเหล่าพี่น้อง LGBTQIA+ จะต้องดูกันให้ได้เลย ซึ่งทางเราเอง ก็ได้มีการปรึกษาหารือ กว่าจะได้แต่ละเรื่องที่นำมาแนะนำกันวันนี้ บอกได้เลยว่า มีการปรึกษากันยาวนานเลยทีเดียว บอกได้เลยว่า แต่ละเรื่องที่นำมานั้นได้มีการคัดกรองอย่างดี บอกได้เลยว่า ต้องติดตามกันให้ได้ ส่วนจะมีเรื่องอะไรบ้างนั้น เรามาเริ่มดูไปพร้อม ๆ กันเลยดีกว่าค่ะ
7 หนังรัก LGBTQIA+ ต้องดูกันให้ได้รับเดือน Pride Month
อย่างที่ได้บอกไปนั้น ว่าวันนี้พวกเราทาง SONGKHAO ได้มีการคัดหนัง ซีรีส์ ภาพยนตร์ เพื่อนำมาแนะนำให้กับ พวกเราเหล่าพี่น้องชาว LGBTQIA+ (Lesbian, Gay, Bi-sexual, Trans, Queer (Questioning), Intersex, Asexual+) บอกได้เลยว่า แต่ละเรื่องนั้นต้องขอซูฮกและต้องดูจริง ๆ ค่ะ
1. Your Name Engraved Herein (ชื่อที่สลักไว้ใต้หัวใจ)
ประเดิมเรื่องแรกด้วยภาพยนตร์จากทางไต้หวัน ซึ่งคงเนื้อเรื่องไว้อยู่ที่เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 54 นาที ซึ่งตอนนี้มีฉายอยู่ที่ทาง Netflix นั่นเองค่ะ โดยเนื้อเรื่องเอง ก็จะบอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับ อาฮั่น และ เบอร์ดี้ สองเพื่อนร่วมโรงเรียนประจำชายล้วน ซึ่งเต็มไปด้วยเรื่องราวแห่งมิตรภาพและความรัก ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลง ครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดของไต้หวัน จากสังคมที่เคยอนุรักษ์นิยม สู่ประเทศที่ค่อนข้างเป็นมิตรกับกลุ่ม LGBTQIA+ อย่างที่สุดในประเทศแถบเอเชีย โดยภาพยนตร์เรื่องนี้จะพาเล่าย้อน กลับไปคลุกอยู่ในยุค 80s’ บอกได้เลยว่า เป็นภาพยนตร์เรื่องนึงที่หลากหลายรสชาติ หลากอารมณ์มากจริง ๆ ค่ะ โดยเฉพาะประโยคเด็ด ที่อาฮั่นตะโกนใส่หน้าคุณพ่อโอลิเวอร์ ผู้ซึ่งเป็นบาทหลวงและครูวงดนตรี ว่า “คุณชอบผู้หญิงได้ แต่ผมชอบผู้ชายไม่ได้สินะ ความรักของคุณยิ่งใหญ่กว่าผมเหรอ ความรักของคุณกับผมมันต่างกันตรงไหนล่ะ” ทำเอาชวนน้ำตาแตกจริง ๆ ค่ะ บอกได้เลยว่า Your name engraved herein หรือ ชื่อที่สลักไว้ใต้หัวใจ เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่แนะนำมาก ๆ ค่ะ
2. The Danish Girl (เดอะ เดนนิช เกิร์ล)
The Danish Girl ภาพยนตร์ที่ดัดแปลงมาจาก นวนิยายอิงประวัติศาสตร์ ของ เดวิด อีเบอร์ชอฟ (David Ebershoff) ซึ่งมีเนื้อเรื่องอยู่ที่เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 59 นาที จิตรกรหนุ่มผู้มีจิตใจเป็นหญิง ซึ่งเขาค้นพบตัวเองหลังจากแต่งงานอยู่กินกับภรรยา จนกลายเป็นการเปลี่ยนครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตของเขา โดยภาพยนตร์จะบอกเรื่องราวทั้งหมด ผ่านตัวละครอย่าง ไอนาร์ เวเกเนอร์ และ เกอร์ด้า เวเกเนอร์ ทั้งคู่ใช้ชีวิตฉันท์สามีภรรยาที่แสนอาร์ตติสทั่วไป และวันหนึ่งเองตัว เกอร์ด้า ก็ได้เปลี่ยนโฉมสามีของตนให้กลายเป็นนางแบบ หลังจากที่ตนถูกเบี้ยวนัดจากนางแบบ ที่จะมาเป็นแบบวาดภาพให้กับเธอ แต่หารู้ไม่ว่า การกระทำนี้จะเปลี่ยนแปลงชีวิตสามีของเธอ ให้กลายเป็นเพื่อนสาวคนสนิทไปตลอดกาล บอกได้เลยว่า The Danish Girl ช่างเป็นเรื่องราวภาพยนตร์ ที่เหล่าเพื่อนพ้อง LGBT ควรค่าแก่ดูเป็นอย่างมากเลยล่ะค่ะ
3. Brokeback Mountain (หุบเขาเร้นรัก)
เรื่องนี้ก็เป็นอีกเรื่องที่ดูแล้ว ค่อนข้างเครียดอยู่พอสมควรเลยทีเดียว โดยเรื่องราวจะบอกเล่าถึงตัวละคร อย่าง Jack และ Ennis หนุ่มคาวบอยชาวไร่ที่ได้มาทำงานร่วมกัน ซึ่งหน้าที่ของพวกเขานั่นก็คือ ต้อนแกะและเฝ้าฝูงแกะ ให้กับเจ้าของไร่บน Brokeback Mountain ซึ่งช่วงเวลานั้นเอง ก็ทำให้ทั้งคู่ได้ใกล้ชิดกันมากขึ้น และตกหลุมรักกันในที่สุด แต่ด้วยบรรทัดฐานด้านสังคม ฐานะ และภาระหน้าที่ส่วนตัวของทั้งคู่ จึงทำให้พวกเขาไม่สามารถที่จะอยู่ด้วยกันได้ แต่ถึงอย่างนั้นแล้ว Jack และ Ennis ก็ต่างยังคงนัดปะกันบ้างนานที ตลอดเวลา 20 ปีที่ผ่านมา ถึงแม้ว่าทั้งคู่เองนั้นจะแต่งงานมีลูก มีครอบครัวไปแล้วก็ตามที
4. Rupaul’s Drag Race
หยุดเรื่องปวดหัว ชวนหนักใจกับปัญหา ของเหล่าชาวสีรุ้ง มาบันเทิงไปกันกับ รายการวาไรตี้ ที่ค้นหาบุคคลที่เรียกกันว่า America Next Drag Superstar กันดีกว่าค่ะ ซึ่งรายการดำเนินการด้วยชายผู้ชื่อว่า Rupaul (รูพอล) ซึ่งสามารถพูดได้เต็มปากเลย ว่า เจ้าตัวหล่อนนั้นคือขุ่นแม่ของเหล่าบรรดาควีนทั่วโลกเลยก็ว่าได้ เพราะว่ามีความสามารถรอบด้าน เป็นได้ทั้งนางแบบ นางโชว์ นักร้อง โปรดิวเซอร์ นักแต่งเพลง บอกได้เลยว่าเธอนั้นกินเรียบ ซึ่งรายการเองก็ไม่ได้ดำเนินไปเพียงแค่ รูพอล เพียงแค่อย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังดำเนินการไปด้วยเหล่าบรรดา Drag Queen (แดร็กควีน) ผู้เข้าแข่งขันภายในรายการ ซึ่งก็จะมีภารกิจต่าง ๆ ให้กับเหล่าควีนได้ทำกัน เพื่อหาว่าใครคือสุดยอดซูเปอร์สตาร์แดร็กควีนของอเมริกา โดยปัจจุบันรายการก็ได้ดำเนินมาจนถึงทั้งหมด 14 ซีซันด้วยกัน และนอกจากนี้เองแล้วนั้น ก็ได้มีการแบ่งแยกแฟรนไซส์ไปหลากหลายประเทศ อย่าง Drag Race Thailand, Rupaul’s Drag Race UK, Canada Drag Race, Espana Drag Race เป็นต้น และเธอเองก็ได้ออกซีซันพิเศษ อย่าง Rupaul’s Drag Race All Stars เพื่อรวมดาวผู้เข้าแข่งขัน ที่เคยแข่งขันในซีซันหลัก ให้กลับมาแข่งขันกันใหม่อีกด้วย ซึ่งมีด้วยกันมากถึง 7 ซีซันเลยทีเดียว เรียกได้ว่า ถ้าหากเป็นชาวสีรุ้งแล้วพลาด Rupaul’s Drag Race บอกเลยว่า เป็นอะไรที่พลาดมาก ๆ จริง ๆ ค่ะ ต้องไปตำกันด่วนเลย!!!
5. Pose (วาดท่าท้าฝัน)
ซีรีส์ อย่างเรื่อง Pose วาดท่าท้าฝัน จะพาทุกท่านกลับย้อนไปยังนครนิวยอร์ก ในช่วงปี 1987 ยุคที่เหล่า LGBT ต้องหลบซ่อนเพราะไม่ได้รับการยอมรับ จากเหล่าสังคมที่เป็นอยู่ ทำให้ทุกท่านได้รับรู้เรื่องราว การต่อสู้จากมุมมืด ที่อยู่ภายในเมืองใหญ่ แต่กลับเป็นสรวงสวรรค์ของเหล่า LGBT ที่ทำการแสดงเพื่อให้ตนเอง กลายเป็นที่ยอมรับและมีที่ยืนในสังคม โดยมีตัวขับเคลื่อนเรื่องราว อย่าง Blanca (บลังก้า) สาวข้ามเพศที่ต้องการลุกขึ้นมาสู้ เพื่อความถูกต้องและในฐานะ ‘คุณแม่’ เองแล้วนั้น เธอก็ได้คอยช่วยเหลือเหล่า LGBT ที่กำลังมีชีวิตลำบาก ให้มีชีวิตที่ดีขึ้นอีกด้วย โดยได้มีการตั้งคอมมูนิตี้เล็ก ๆ ขึ้นมาในนาม ‘Evangelista’ บอกเลยว่า ซีรีส์ เรื่องนี้นั้นจะต้องตอบโจทย์ในแง่ของ ความสนุกสนานและความดราม่า ที่มาพร้อม ๆ กันภายใน ซีรีส์ เรื่องนี้ด้วยเช่นกัน เหมือนกับว่า ทุกคนล้วนมีเรื่องราวที่สุดแสนเศร้า แต่ก็ต้องเดินหน้าต่อไปให้ได้ SONGKHAO บอกเลยว่า เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ควรต้องดูจริง ๆ ค่ะ
6. Cherry Magic (ถ้า 30 ยังซิง จะมีพลังวิเศษ!)
พักเรื่องชวนปวดหัว มาเติมความหวาน น่ารัก ปนฮาไปกับ Cherry Magic กันดีกว่าค่ะ บอกเลยว่าซีรีส์วายสัญชาติญี่ปุ่น ที่สร้างมาจากมังงะชื่อดัง อย่าง 30-sai made Doutei da te Mahou Tsukai ni nareru rashii: CheriMaho ที่ได้รับการดัดแปลงมาอยู่ในรูปแบบ Live Action โดยเรื่องราวทั้งหมดก็เล่าง่าย ๆ ผ่านตัวหลักอย่าง อาดาจิ และ คุโรซาวะ ซึ่งบอกเล่าผ่านความเชื่อเรื่อง ถ้าหากใครอายุ 30 แล้วยังเวอร์จิ้น บริสุทธิ์ผุดผ่องอยู่นั้น จะได้รับพลังวิเศษ ซึ่ง อาดาจิ เองเมื่อวัยอายุย่างกรายขึ้นเลข 3 แล้วนั้น เขาก็ได้รับพลังวิเศษมา เพราะยังบริสุทธิ์อยู่ นั่นก็คือ สามารถอ่านใจคนอื่นได้ด้วยการแตะเนื้อต้องตัว และเขาดันไปเผลออ่านใจ หนุ่มหล่อสุดฮอต อย่าง คุโรซาวะ จนค้นพบว่าหนุ่มฮอตคนนั้น ดันตกหลุมรักไอ้หนุ่มหน้าจืดอย่างเขาซะได้ บอกได้เลยว่า ซีรีส์ เรื่องนี้ช่วยให้ใจฟูเป็นอย่างมากเลย และพ่อพระเอกของเรา ก็ช่างไมโครเวฟเหลือเกิน บอกเลยว่าถ้าหากใครชอบ สไตล์น่ารัก ๆ ล่ะก็ ต้องไม่พลาดเรื่องนี้ อย่างแน่นอนค่ะ
7. The Favourite (อีเสน่ห์ร้าย)
ภาพยนตร์แนวชีวประวัติสุดจะดราม่า ซึ่งได้นักแสดงมากความสามารถ อย่าง เอ็มม่า สโตน มาร่วมงานด้วย โดยเธอรับบทเป็น อาบิเกล ฮิลล์ หญิงรับใช้ผู้ซึ่งเป็นขวัญใจของ ซาร่าห์ เชอร์ชิลล์ ดัชเชสแห่งมาร์ลบะระ ที่ได้รับบทจาก ราเชล ไวซ์ เจ้าของนักแสดง สมทบหญิงระดับออสการ์ โดยเรื่องราวบอกเล่าผ่านช่วงต้น ของศตวรรษที่ 18 แห่งราชวงศ์อังกฤษ ภายใต้การปกครองของ สมเด็จพระราชินีแอนน์ โดยมีสหายหญิงคนสนิท ผู้เป็นทั้งที่ปรึกษา และ เบื้องหลังในการดูแลทุกอย่าง นามว่า ซาร่าห์ เชอร์ชิลล์ แต่แล้ววันนึง ความสัมพันธ์ของทั้งคู่กลับสั่นคลอน ด้วยการมาเยือนของสาวใช้คนใหม่ นามว่า อบิเกล มาแชม สาวใช้ผู้วางแผนใช้เสน่ห์ของตน เพื่อพาตัวเองให้กลับไปอยู่ ภายใต้สังคมชนชั้นสูงอีกครั้ง เธอจึงใช้โอกาสนี้ตีสนิทพระราชินีแอนน์ เพื่อหวังจะได้ก้าวขึ้นแท่น สู่ตำแหน่ง “คนโปรด” คนใหมของราชินี และจะไม่ยอมให้ใครหน้าไหน มาขัดขวางแผนการของเธอ อย่างแน่นอนเลยล่ะค่ะ ซึ่งขอบอกเลยค่ะ ว่า The Favourite มอบกลิ่นอายความเป็น Lesbian ได้ดีมาก ๆ เลยทีเดียว ทั้งด้วยความที่ความรักของเหล่าหญิงสาว ระหว่างกันเอง ขอบอกเลยว่า เรื่องราชวงศ์แบบนี้ น่าติดตามเป็นอย่างมากเลยทีเดียว เลยล่ะค่ะ
เป็นยังไงบ้างล่ะคะ สำหรับเหล่า ภาพยนตร์และ ซีรีส์ ที่ทาง SONGKHAO เรานำมาเสนอให้กับเหล่าผู้อ่านทุกท่าน ขอบอกเลยนะคะว่าแต่ละเรื่องนั้น ทางเราได้ทำการคัดสรรมาอย่างดี เพื่อมานำเสนอให้กับผู้อ่านทุกท่าน ได้เลือกสรรชม ซีรี่ส์และภาพยนตร์ LGBTQIA+ เพื่อต้อนรับเดือน Pride Month ซึ่งเป็นเดือนแห่งความภาคภูมิใจของเหล่าชาวสีรุ้ง ขอบอกเลยว่า เป็นอะไรที่น่าติดตามเอาเสียมาก ๆ เลยทีเดียวล่ะค่ะ ซึ่งสำหรับวันนี้เองทาง SONGKHAO ก็อยากจะขอลาไปก่อน เพื่อที่จะได้กลับมาพบกันใหม่ บอกเลยว่าครั้งหน้านั้น ทางเราจะมี ซีรีส์ หรือว่า ภาพยนตร์ อะไรมาแนะนำบ้าง บอกเลยว่าต้องรอติตตาม กับพวกเราได้เลยค่ะ อย่าพลาดเชียวล่ะ เดี๋ยวไม่ทันเทรนด์นะเอ้อ!
ขอขอบคุณข้อมูลต่าง ๆ จาก :
https://www.metalbridges.com/the-danish-girl/ (เรื่องย่อ The Danish Girl)
https://minimore.com/b/qk0a2/16 (เรื่องย่อ Brokeback Mountain)
https://thestandard.co/pose/ (Pose วาดท่าท้าฝัน)
อ่านบทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจต่อ :
แนะนำ ภาพยนตร์ / ซีรีส์ 10 เรื่องจากทาง Netflix แก้เหงาช่วงหน้าฝนตก EP1
แนะนำ ภาพยนตร์ / ซีรีส์ 10 เรื่องจากทาง Netflix แก้เหงาช่วงหน้าฝนตก EP2
