การสร้างประวัติศาสตร์ครั้งใหม่ของ ฟุตบอลโลก 2022 โดยทีมชาติโมร็อกโก

เรื่องที่กำลังเป็นประเด็นมากที่สุดใน ฟุตบอลโลก 2022 ครั้งนี้ หากไม่พูดถึงก็คงจะไม่ได้อย่างแน่นอน เพราะในการแข่งขัน ฟุตบอลโลก 2022 มี 1 ทีม ที่สามารถผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศมาได้เป็นครั้งแรก หากมองจากมุมมองของทีมอื่นๆ ที่สามารถผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศมาได้ สำหรับทีมอื่นๆ คงจะไม่ใช่เรื่องแปลกมากอะไร แต่มี 1 ใน 4 ทีมนี้ ที่สามารถผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศมาได้ และจะเป็นการสร้างประวัติศาสตร์ของฟุตบอลโลกครั้งแรก ประจำโซนแอฟริกาเลยก็ว่าได้ เพราะในบรรดาทีมต่างๆ จากโซนแอฟริกาที่ได้เข้าร่วม ฟุตบอลโลก 2022 ในครั้งนี้ มีจำนวนทั้งหมด 5 ทีม แต่สิ่งที่น่ายินดี และน่าตกใจมากที่สุด คือ ในจำนวน 5 ทีมทั้งหมด จากโซนแอฟริกา เหลือเพียงแค่ 1 ทีมเท่านั้น ที่สามารถผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศมาได้ และเป็นครั้งแรงของประวัติศาสตร์ที่มีทีมจาก โซนแอฟริกา สามารถผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศมาได้เป็นครั้งแรก และทีมที่สามารถสร้างประวัติศาสตร์อันน่าจดจำนี้ ก็คือ ทีมชาติโมร็อกโก

ทีมชาติโมร็อกโก
ทีมชาติโมร็อกโก ก่อตั้งทีมฟุตบอลขึ้นครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ. 1955 และได้ทำการแข่งขันในเกมระดับนานาชาติครั้งแรก เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม ค.ศ. 1957 ในเกมวันนั้น ทีมโมร็อกโก จะต้องพบเจอกับ ทีมชาติอิรัก และการแข่งขันในวันนั้น จบลงด้วยผลสกอร์ 3 – 3 หลังจากนั้น ทีมโมร็อกโก ก็ได้ทำการแข่งขันเกมต่างๆ ในระดับนานาชาติมาเรื่อยๆ จนกระทั่งในปี ค.ศ. 1970 ทีมโมร็อกโก ได้ทำการเข้าร่วมรายการแข่งขันฟุตบอลโลกครั้งแรก โดยในปีนั้นทีมโมร็อกโกสามารถผ่านรอบคัดเลือกได้ไปจนถึงรอบแบ่งกลุ่ม แต่น่าเสียดายที่ทีมโมร็อกโก ไม่สามารถเอาชนะใครได้เลยในการแข่งขันครั้งนั้น ซึ่ง ทำการแข่งขันในรอบแบ่งกลุ่มไปทั้งหมด 3 นัด ชนะ 0 เสมอ 1 แพ้ 2 ยิงได้ 2 ประตู และเสีย 6 ประตู แต่สำหรับทีมโมร็อกโก การเข้าร่วมรายการแข่งขันฟุตบอลโลก หรืออาจจะเรียกได้ว่า เป็นรายการฟุตบอลที่ใหญ่มากที่สุดในโลกแล้วก็ว่าได้ การที่ทีมโมร็อกโกสามารถผ่านเข้าถึงรอบแบ่งกลุ่มได้ ก็นับว่าเป็นการประสบความสำเร็จอย่างมากแล้ว
หลังจากที่การแข่งขัน ฟุตบอลโลก ปี ค.ศ. 1970 ได้ผ่านไปเพียงแค่ 2 ปี ทีมชาติโมร็อกโก ได้เข้าร่วมรายการแข่งขันที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของ ทวีปแอฟริกา หรือชื่อรายการ คือ “ แอฟริกาออฟเนชันส์ ” โดยรายการแอฟริกาออฟเนชันส์มีการจัดแข่งขันครั้งแรกปี ค.ศ. 1957 จะมีจำนวนทีมที่เข้าร่วมการแข่งขันทั้งหมด 24 ทีม มีทีมเก่งๆ อยู่มากมายภายในรายการนี้ เช่น
- อียีปต์ แชมป์ 7 สมัย
- แคเมอรูน แชมป์ 5 สมัย
- กานา แชมป์ 4 สมัย
- ไนจีเรีย แชมป์ 3 สมัย
- เซเนกัล แชมป์ 1 สมัย
สำหรับรายการ แอฟริกาออฟเนชันส์ จะมีการจัดการแข่งขันขึ้นทุกๆ 2 ปี หลังจากที่ทีมโมร็อกโกได้เข้าร่วมแข่งขันครั้งแรกในปี ค.ศ. 1972 หลังจากนั้นต่อมา ทีมชาติโมร็อกโก ก็ได้เข้าร่วมการแข่งขันมาโดยตลอด จนในปัจจุบันนี้ทีมโมร็อกโก ได้เข้าร่วมรายการแข่งขัน แอฟริกาออฟเนชันส์ มาทั้งหมด 18 และครั้งที่ดีที่สุดสำหรับทีมโมร็อกโก คือ ปี ค.ศ. 1976 เป็นปีแรก และเป็นปีเดียวที่ทีมโมร็อกโก สามารถคว้าแชมป์ในรายการนี้ได้

ฟุตบอลโลก 2022 กับการสร้างประวัติศาสตร์ครั้งใหญ่ของ ทีมชาติโมร็อกโก
รายการแข่งขันฟุตบอลโลก จัดขึ้นครั้งแรกในปี ค.ศ. 1930 ในและแข่งขันในปี 2022 เป็นการแข่งขันรายการฟุตบอลโลกครั้งที่ 22 แต่สำหรับทีมโมร็อกโก เป็นการเข้าร่วมการแข่งขันครั้งที่ 6 เพียงเท่านั้น ในจำนวนทีมชาติทั้งหมดที่สามารถผ่านเข้ารอบ 32 ทีมมาได้ จากโซนแอฟริกามีทั้งหมด 5 ทีม โดยจะมีทีมดังนี้
- แคเมอรูน
- กานา
- โมร็อกโก
- เซเนกัล
- ตูนิเซีย
ในจำนวน 5 ทีมชาติจาก ทวีปแอฟริกา ทีมชาติแคเมอรูน สามารถเข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอลโลกได้มากที่สุด จำนวนทำหมด 8 ครั้ง แต่สิ่งที่ทำให้ ทีมชาติโมร็อกโก ได้สร้างความน่าตื่นตา ตื่นใจมากที่สุด ในการแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 ในครั้งนี้ คือ ทีมโมร็อกโก สามารถผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศได้เป็นครั้งแรก และการผ่านเข้ารอบครั้งแรกในครั้งนี้ ไม่ได้เป็นเพียงการผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศ ครั้งแรกของทีมโมร็อกโกเพียงอย่างเดียว เพราะในจำนวนทีมชาติทั้งหมดจาก ทวีปแอฟริกา มีจำนวนทีมทั้งหมด 54 ทีม ที่ได้ทำการแข่งขันเพื่อที่จะเข้ามาสู่รอบ 32 ทีมนี้ให้ได้ แต่สิ่งที่ทำให้ ทีมโมร็อกโก สามารถบันทึก หรือได้ทำการจารึกประวัติศาสตร์ คือ ทีมชาติโมร็อกโก เป็นทีมแรกจากทวีปแอฟริกาที่สามารถผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศได้ หรือเรียกง่ายๆ ก็คือ เป็นตัวแทนของทวีปแอฟริกาเลยทีเดียว เพราะในจำนวนทีมจากแอฟริกาทั้งหมด 54 ทีม แม้แต่ทีมชาติแคเมอรูนที่สามารถคว้าแชมป์รายการ “ แอฟริกาออฟเนชันส์ ” ได้ถึง 5 สมัย หรือแม้แต่ทีมชาติอียิปต์ ที่สามารถคว้าแชมป์ “ แอฟริกาออฟเนชันส์ ” ได้มากถึง 7 สมัย ยังไม่เคยผ่านมาได้ถึงรอบรองชนะเลิศมาก่อน เรียกได้ว่า การแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 ในครั้งนี้ สำหรับทวีปแอฟริกาแล้ว ถือว่า เป็นความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่ ทั้งสำหรับทีมโมร็อกโก และสำหรับทวีปแอฟริกาเลยก็ว่าได้

รายชื่อขุมกำลังทีมชาติโมร็อกโก ในรายการแข่งขัน ฟุตบอลโลก 2022 ทั้งหมด 26 คน
ผู้รักษาประตู 3 คน
- ยาสซีน โบโน
- มูเนียร์ โมฮาเมดี้
- อาห์เหม็ด ทักนาอูติ
กองหลัง 8 คน
- โรแม็ง ซาอิสส์
- ฮาชราฟ ฮาคิมี่
- นาเยฟ อเกิร์ด
- นูสแซร์ มาซราอุย
- จาวาด เอล ยามิค
- อาชราฟ ดารี่
- บาดร์ บาโนน
- ยาเฮีย อัตติยัต อัลลาห์
กองกลาง 8 คน
- ซอฟยาน อัมราบัต
- เซลิม อมาลลาห์
- อนาสส์ ซารูรี่
- อิลิยาส แชร์
- อัซเซดีน ฮูนาไฮ
- ยาห์ยา ยาบราน
- อับเดลฮามิด ซาบิรี่
- บิลาล เอล คานนูส
กองหน้า 7 คน
- ยูเซฟ เอ็น – เนเซรี่
- ฮาคิม ซิเย็ค
- โซฟิยาน บูฟาล
- อับเดอร์ราซัก ฮามดาลลาห์
- ซากาเรีย อบูคลาล
- อับเด เอซซาลซูลี่
- วาลิด เชดดิร่า
และทั้งหมดนี้ คือ รายชื่อนักกีฬาทีมโมร็อกโกทั้งหมด 26 คน สำหรับรายการแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 และเป็นรายชื่อผู้เล่นในชุดที่สามารถสร้างประวัติศาสตร์ให้กับทีมชาติของตนเอง และสามารถสร้างประวัติศาสตร์ให้กับทวีปแอฟริกา หากมองว่าเป็นเรื่องปกติแล้ว ให้คุณลองมองเส้นทางต่างๆ ก่อนที่ทีมโมร็อกโกจะสามารถผ่านมาถึงจุดนี้ได้ ในรอบแบ่งกลุ่ม 32 ทีมสุดท้าย ทีมโมร็อกโกอยู่ในกลุ่ม F ที่มีทีมประกอบไปด้วย ดังนี้
- โมร็อกโก
- โครเอเชีย
- เบลเยียม
- แคนาดา
ในรอบแบ่งกลุ่มของกลุ่ม F โมร็อกโก สามารถผ่านเข้ารอบมาได้เป็นอันดับที่ 1 ซึ่ง สามารถเข้าชนะเบลเยียม แคนาดา และเสมอกับ ทีมชาติโคเอเชีย ที่เป็นถึงรองแชมป์ ในการแข่งขันฟุตบอลโลก 2018 หลังจากผ่านรอบแบ่งกลุ่มมาได้ ในรอบน็อคเอาท์ของ 16 ทีมสุดท้าย ทีมชาติแรกที่ โมร็อกโก จะต้องเจอ คือ ทีมชาติสเปน ซึ่ง ทีมชาติสเปน เคยได้แชมป์มาก่อนในปี 2010 1 สมัย และในฟุตบอลโลกปี 2022 ทีมชาติสเปน ถือว่า มีความน่าเกรงกลัวมากๆ สำหรับการมาของ ทีมชาติสเปน ในครั้งนี้ แต่ทีมโมร็อกโกก็สามารถเอาชนะมาได้ด้วยการยิงจุดโทษ 3 – 0 หลังจากที่ผ่านมาถึงรอบก่อนรอบรองชนะเลิศ หรือรอบ 8 ทีมสุดท้าย โมร็อกโก จะต้องพบกับ โปรตุเกส ที่เคยเป็นถึงอันดับ 3 ของโลกในปี ค.ศ. 1996 และในปี ค.ศ. 2016 ทีมชาติโปรตุเกส สามารถคว้าแชมป์ “ ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป ” และเมื่อทำการเปรียบเทียบในด้านของขุมกำลังของทั้ง 2 ฝ่าย ทีมโมร็อกโก มีความเสียเปรียบอย่างมากในเกมวันนั้น เมื่อการแข่งขันได้เริ่มขึ้น ในนาทีที่ 42 ของครึ่งแรก เป็นทีมโมร็อกโกที่สามารถขึ้นนำไปได้ก่อน โดยยูเซฟ เอ็น – เนเซรี่ และประตูของ ยูเซฟ เอ็น –เนเซรี่ ก็ได้กลายเป็นประตูตัดสินที่ทำให้ ทีมชาติโมร็อกโก สามารถผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศไปได้นั้นเอง