มุมมองเรื่อง เซ็กซ์ และความโรแมนติก ผ่าน ‘ SEX TOY ’

เซ็กซ์ ในช่วงราวๆ 15 ปีที่ผ่านมานั้น ‘slow movement’ หรือกระแสนิยม เกี่ยวกับความเนิบช้า ได้เผยแพร่ไปทั่วโลก สวนทางกับ จังหวะของสังคม ที่ได้มุ่งหน้าไปด้วย ความรวดเร็ว ซึ่งกำลังจะ ส่งผลเสียมากมาย กลับมาหาเหล่าผู้คน เราจะเริ่มได้เห็น วัฒนธรรมการใช้ชีวิต อย่างเนิบช้า หรือที่เรียกว่า สโลว์ไลฟ์ ของคนรุ่นใหม่, การผลิตอาหาร ที่มุ่งให้ความสำคัญ เรื่องของความยั่งยืน ของตัวโลก และสุขภาพ ของคนกินเท่าๆ กัน อย่างพวกสโลว์ฟู้ด ตรงข้ามกันกับ วัฒนธรรมการบริโภค ที่เน้นเกี่ยวกับความเร็ว และการทำร้ายสุขภาพ อย่างอาหารฟาสต์ฟู้ด  หรือการเคลื่อนไหวของ สโลว์แฟชั่น โดยกลุ่มพวกคน ที่ไม่ไหวจะทน กับความรวดเร็ว และไม่ได้แคร์สิ่งแวดล้อม ของพวกอุตสาหกรรมผลิตเสื้อผ้า

Slow Sex

‘slow sex’ นับได้ว่าเป็น หนึ่งการเคลื่อนไหว ที่ได้ผุดขึ้นมา ในช่วงเวลาที่ไล่เลี่ยกัน แม้ว่าจะถูกพูดถึง น้อยกว่าตัวกระแสสโลว์อื่นๆ แต่ก็ยังถูกให้ความสนใจอย่างมาก มาอย่างต่อเนื่อง แบบเนิบๆ และมากขึ้นเอามากๆ เมื่อเทียบกับ กระแสครั้งแรก ที่คำนี้ ได้ถูกพูดถึง 

ในหนังสือ In Praise of Slowness ทางผู้เขียน ได้เล่าว่า แนวคิดของ เซ็กส์ ที่เนิบช้านั้น ถูกจุดขึ้นครั้งแรก ที่ประเทศอิตาลี โดย Alberto Vitale ที่ปรึกษาด้านการตลาด อดีตเพลย์บอย ที่ผ่านประสบการณ์เรื่อง เซ็กส์ มาอย่างโชกโชน ได้บอกว่า เซ็กซ์ ในโลกที่ วัดประสิทธิภาพกัน ด้วยความเร็ว ทำให้ตัวเรามี เซ็กซ์ แบบมุ่งเน้นปริมาณ มากกว่าด้านคุณภาพ เรามักจะคุ้น กับบทสนทนาเชิงตัวเลข พวกประเภท ‘กี่คน’ หรือ ‘กี่ครั้ง’ เวลาที่เหล่าผู้คน โดยเฉพาะผู้ชาย จะพูดถึง SEX  มักให้ความสำคัญ กับตัวผลผลิตปลายทาง อย่างการเสร็จ หรือว่าถึงจุดสุดยอด (orgasm) มากกว่าพวก ความรื่นรมย์ ทางประสาทสัมผัส ที่เกิดขึ้นช่วงระหว่างทาง

ตัวแนวคิดที่เป็นราก และมีอิทธิพลต่อ เซ็กส์ แบบเนิบช้าโดยตรง นั่นคือ เซ็กซ์ แบบตันตระ ที่ได้ผสมผสาน การทำสมาธิ และโยคะ ให้เข้ากับ เซ็กซ์ ตันตระ จะให้ความสำคัญใน ‘full-body orgasm’ หรือเรียกว่า การถึงจุดสุดยอดทั้งร่างกาย โดยได้มองว่าการ ‘หลั่ง’ เป็นแค่เพียงโบนัส ไม่ใช่ทั้งหมดของ เซ็กซ์

ในความใส่ใจ ในเรื่องรายละเอียดของคู่ เซ็กส์ และการให้เวลา กับเรื่องความพึงพอใจ ในร่างกายของตน จึงได้เป็นหลักสูตรปฏิบัติ ที่มาพร้อมกับ เซ็กซ์ แบบเนิบช้า ที่กำลังเป็นกระแส และถูกให้ความสนใจโดยผู้คนมากขึ้นเรื่อยๆ แนวคิดการออกแบบ ตัวผลิตภัณฑ์ ที่เกี่ยวข้องกับเรื่อง เซ็กส์ โดยตรงอย่าง ‘ SEXTOY ’ จึงต้องปรับตัว เพื่อให้สอดคล้อง กับความโรแมนติก ของผู้คนที่กำลัง ได้เริ่มเปลี่ยนไป

SEX TOY

ONNA คือบริษัทที่ผลิต เซ็กส์ทอย ที่ได้วางจุดยืน ของทางแบรนด์ชัดเจน ในเรื่องของความช้า โดยสโลแกน ของทางแบรนด์คือ ‘THE ART OF SLOW PLEASURE’ ที่แปลว่า ศิลปะแห่งการดื่มด่ำความอิ่มเอิบเนิบช้า การออกแบบ เซ็กซ์ทอย SEXTOY ของ ONNA จึงไม่ได้มุ่งเน้นไปที่ การช่วยตัวเอง โดยการสอดใส่เพื่อรับใช้การเสร็จ เพียงอย่างเดียว แต่จะเน้นให้ผู้ใช้ ได้มีเวลามอบความพึงพอใจ ให้กับส่วนต่างๆ ของร่างกายด้วย

Vitale บอกว่า อันที่จริงแล้ว เซ็กส์ แบบรีบร้อนไม่ได้เพิ่งจะเกิดขึ้น ในช่วงยุคสมัยใหม่ แต่มีต้นรากยาวนาน ตั้งแต่ในยุคก่อร่าง สร้างวัฒนธรรมมนุษย์ การมี เซ็กซ์ ในช่วงเวลาอันสั้นเท่าไหร่ จะยิ่งลดโอกาสที่จะ ถูกทำร้ายและโจมตีจากสัตว์ป่า หรือศัตรูมากเท่านั้น แต่ว่าในโลกปัจจุบัน ที่คนเราสามารถ มีเวลาที่รื่นรมย์ กับชีวิตมากขึ้น เซ็กซ์ จึงไม่จำเป็นต้องรีบร้อนเสมอไป และ เซ็กส์ ยังเป็นช่วงเวลาที่คนคนหนึ่ง จะได้มีโอกาส ที่จะสำรวจความรู้สึกอย่างลึกซึ้ง ในโลกที่ตัวเรา ไม่มีโอกาสเชื่อมต่อกับ ตัวเราเองมากนัก

The Rituals of Sexual Pleasure คือชุดผลิตภัณฑ์ ที่ได้ออกแบบมาเพื่อ ทำให้ผู้คนได้มี ‘พิธีกรรม’ กับตัวเอง  เพื่อจะค้นหาความสุข ในร่างกายของตน ไม่ว่าจะเป็นคู่หรือใช้คนเดียวก็ตาม นักออกแบบ Coby Huang ออกแบบให้ตัวผลิตภัณฑ์ ในเซ็ตทำมาจากวัสดุ ที่มอบสัมผัสและน้ำหนัก ที่แตกต่างกันอย่าง ซิลิโคน ไม้ แก้ว โลหะ และไหมพรม แต่ละชิ้นมีรูปทรงกลมกึ่งโค้งเว้า ที่ท่านสามารถ นำไปสัมผัสได้กับ ทุกๆส่วนของร่างกาย ไม่ใช่แค่อวัยวะเพศ พร้อมยังมี vibrator ที่สร้างแรงสั่น ในรูปแบบที่แตกต่างกันออกไป นอกจากนี้ในเซ็ตยังมีคำแนะนำ การจับคู่กับ เซ็กส์ทอย ชิ้นต่างๆ ให้เข้ากับเพลย์ลิสต์ และกลิ่นของเทียนหอม

The Future of Sex Lab แล็บที่ไว้คอย ค้นหาความเป็นไปได้ ระหว่าง เซ็กส์ และเทคโนโลยี ได้มองว่าส่วนสำคัญที่ทำให้ การใช้เวลาดื่มด่ำ ไปกับกิจกรรมทางเพศ มักเกิดขึ้นได้ยาก ในยุคสมัยใหม่ ก็คือเทคโนโลยีที่รวดเร็ว ที่สวนทางกัน แล็บจึงได้ค้นหาวิธีที่จะ ทำให้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยผสาน และสร้างความสัมพันธ์ทางเพศที่ดีขึ้น แทนที่จะมาเป็นตัวสกัดกั้น

เว็บไซต์ชื่อ Wheel of Foreplay ได้ถูกออกแบบมาเพื่อ เพิ่มความสำคัญให้กับ ห้วงเวลาของการแหย่เย้าเล้าโลม ในการมี เซ็กส์ ของคู่รักต่างๆ หรือแม้แต่การช่วยตัวเอง ภายในเว็บไซต์ มีรูปแบบเป็นเกมหมุนวงล้อ เพื่อสุ่มการ์ด ‘ชาเลนจ์’ต่างๆ เช่น ให้ทั้งคู่ถอดเสื้อผ้า แล้วเล่นซ่อนหากัน หรือ เปิดรูปอะไรก็ได้ ที่ไม่ใช่พวกรูปโป๊ และดูว่าคุณจะมีอารมณ์กับมันแบบไหนกัน

เว็บไซต์นี้ ได้ออกมาในช่วง สถานการณ์ระบาดของโควิด-19 พอดี นอกจากจะช่วยเพิ่มความสำคัญ ให้ช่วงเวลาของการเล้าโลม ในแต่ละชาเลนจ์ ยังได้ช่วยจุดประกาย ให้คนที่กักตัวอยู่ด้วยกันนั้น หรือไปจนถึง แม้กระทั่งกักตัวอยู่คนเดียว เริ่มต้นกับบทสนทนาทางเพศ กับคนรักและตัวเองได้อย่างง่ายขึ้น

Kendall McKenzie ผู้สอนเกี่ยวกับ เพศศึกษาในนิวยอร์ก ได้บอกว่า การพูดคุยกันเกี่ยวกับเรื่อง ความพึงพอใจในร่างกาย นับเป็นจุดเริ่มต้น ไปสู่สุขภาวะทางเพศที่ดี ในการขับเคลื่อน ให้ได้เกิดบทสนทนา ที่เกี่ยวกับว่า เธอชอบให้จับตรงไหน ไม่ชอบตรงไหน หรือว่าต้องการ ให้เธอทำอะไร จึงเป็นเรื่องที่สำคัญ ในการฝึก slow sex แบบตันตระ มีแบบฝึกหัดอย่าง Yes-No-Maybe-Please โดยให้คู่รักสัมผัสร่างกายของกันและกัน อย่างเนิบช้า และบอกกันไปว่า ตรงไหนใช่, หรือไม่ใช่, เป็นไปได้ หรือแบบไหนที่ใช่เลย! ขอแบบนี้อีก!

ในขณะที่ ตัวแนวคิด slow sex ช่วยทำให้ผู้คน เริ่มกลับมาให้ความสำคัญ กับความสุขในร่างกาย และเริ่มโอเคที่จะแบ่งปันความพึงพอใจ ให้แก่กันและกันมากขึ้น และยังช่วยขับเคลื่อน อีกแนวคิด ที่พัวพันกันอย่างแยกไม่ออก อย่าง ‘orgasm equality’ หรือแนวคิดที่ว่า ‘ทุกๆคนมีสิทธิ ที่จะเสร็จอย่างเท่าเทียม’ 

เซ็กซ์แบบรวดเร็ว ไม่ได้เริ่มเกิดขึ้น เพราะยุคสมัยที่รีบร้อน แต่เพียงอย่างเดียว แต่เกิดจากการ ที่ให้ความสำคัญกับการเสร็จของผู้ชาย เป็นส่วนใหญ่ เหนือกว่าความสุข และการเสร็จของผู้หญิง หลายๆสถิติบอกว่า ผู้หญิงครึ่งค่อนโลกไม่เคยได้ไปถึง จุดสุดยอดได้เลย ในขณะมีอะไรกับคนรัก ผู้หญิงส่วนใหญ่จะใช้เวลานานกว่า จะไปถึงจุดสุดยอด และหลายคนบอกว่า ตัวเธอพึงพอใจ จากการถูกกระตุ้นในส่วนต่างๆ นอกเหนือไปจาก ส่วนอวัยวะเพศของเธอ ร่วมด้วย แนวคิด slow sex ที่ปลุกให้ผู้คน ให้ความสำคัญกับ ความสุขในร่างกาย และสร้างประสบการณ์ได้แบบ full-body orgasm จึงได้ช่วยผลักดันให้เกิดการ เสร็จเท่าเทียมมากขึ้น

การเสร็จที่เท่าเทียมกัน ไม่ได้ขยายวงไปแค่ผู้หญิงเท่านั้น แต่ได้ผายมือกว้างออกไปสู่ ผู้คนที่มีความหลากหลายมากกว่า แค่ชายหญิงหรือคนหนุ่มสาวเท่านั้น 

ผู้ผลิตเซ็กซ์ทอยอย่าง Wild Flower ที่ได้สร้าง Genderless หรือ Gender-Neutral sextoy ที่ได้ออกแบบมาให้สำหรับ เพศที่หลากหลาย และลื่นไหล ทำให้เซ็กซ์ทอย ชิ้นนี้สามารถอยู่กับ คนคนหนึ่งไปได้ในทุกๆ การเปลี่ยนแปลงของร่างกายต่างๆ คู่รัก หรือแม้รสนิยมทางเพศ ด้วยการคิดค้นออกแบบ รูปทรงที่เหมาะกับการใช้งานแบบปลายเปิด และที่สำคัญนั้น ไม่จำกัดและ ไม่ปิดนิยามทางเพศ ให้ผู้ที่ใช้งานด้วยรูปทรงเลียนแบบ ของอวัยวะเพศที่เราคุ้นเคย (ไม่ใช่แค่เราใช้ ‘จู๋’ เพราะว่าเป็นผู้หญิง หรือเราใช้ ‘จิ๋ม’ เพราะว่าเป็นผู้ชาย)

‘เซ็กส์ทอยไร้นิยามเพศ’ จึงได้ปิดกว้าง ให้กิจกรรมทางเพศไปจนถึงตัวตนของเรา หรือแม้แต่กระทั่งคู่ของเราเปลี่ยนแปลงไปได้เสมอ

นอกจากความหลากหลายทางเพศแล้วนั้น ผู้ออกแบบเซ็กส์ทอย ในช่วงปี 2021 ยังคิดถึง ความหลากหลา ยทางอายุอีกเสียด้วย ในขณะที่เซ็กส์ทอยทั่วไป ในตลาดได้ตอบโจทย์ ความต้องการของผู้คนในช่วง 18-49 ปีเท่านั้น Dotyk คือชุดเซ็กส์ทอย ที่ได้ออกแบบตามความต้องการของ เหล่าผู้สูงวัย ออกแบบให้เล่น กับสัมผัสที่หลากหลายอย่าง นอกจากการได้สัมผัส อย่างกลิ่น หรือตัวอุปกรณ์ที่ไว้ใช้ ฟังเสียงการเต้นของหัวใจของเหล่าคู่รัก

ในขณะที่ Ripple คือชุดอุปกรณ์ที่ได้ออกแบบมาเพื่อ ให้คนพิการที่ทำการ ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ให้สามารถช่วยตัวเองและมีความสุขทางเพศได้ ในรูปแบบของชุดพองลม ทั้งหน้ากาก และรีโมตคอนโทรล ที่จะสามารถกระตุ้นทั้งการสัมผัส การมองเห็น เสียง และรูปกลิ่น

Hsin-Jou Huang, Szu-Ying Lai และ Chia-Ning Hsu นักออกแบบทั้งสาม ได้มองว่า ความต้องการทางเพศของคนพิการนั้น คือเรื่องที่ถูกละเลยมามากที่สุด มากกว่านั้น บางสังคมกับมองว่า เรื่องเพศของคนพิการนั้น น่าเกลียดและน่าอาย โดยเฉพาะในประเทศกำเนิด อย่างทางไต้หวัน ทั้งที่จริงๆ มันเป็นเรื่องปกติ และเป็นปัจจัยสำคัญมาก ในการดำรงชีวิตของคนทุกคน

ชุดที่คนพิการ จะได้นำมาสวมใส่ ออกแบบให้มันสามารถพองลม และมีอุณหภูมิอุ่นๆ เพื่อเข้ามากระตุ้นความรู้สึก ในบริเวณหน้าอก และส่วนบั้นท้าย มีแรงสั่นสะเทือน ในจุดที่เป็นส่วนอวัยวะเพศ หน้ากากสำหรับปิดตา มาพร้อมกับกลิ่นฟีโรโมน และหูฟังที่มีเสียงแบบ ASMR (autonomous sensory meridian response) ทำให้ได้รู้สึกผ่อนคลาย และเย้ายวน ถุงลมบริเวณไหล่ และส่วนหน้าท้องจะพองลม พร้อมกับเพิ่มอุณหภูมิให้สูงขึ้นได้  เพื่อจำลองความรู้สึก ของการได้ถูกกอดยามถึงจุดสุดยอด

หลายๆคน อาจจะจินตนาการภาพ เซ็กส์ทอยในช่วงปีหลัง ไว้แฟนตาซีที่เหนือจินตนาการ (ซึ่งอะไรแบบนั้น ก็ใช่ว่าจะไม่มีเลย อย่างเช่น เซ็กส์ทอยทางไกล ที่ได้เชื่อมต่อกับ Virtual Reality) แต่สิ่งที่เซ็กส์ทอย แบบนี้สะท้อนออกมาดังกว่า กลับเป็นความพยายาม ของนักดีไซด์ที่พยายาม จะฟังเสียงความต้องการของคนที่ แตกต่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของ รสนิยมทางเพศ ที่หลากหลายและไม่ได้มี แค่ฝ่ายหญิงชาย คนสูงอายุ หรือคนที่พิการ ที่บ่อยครั้งมีกถูกมองข้าม ความต้องการทางเพศไปเลย ทำให้นึกต่อไปได้ไกลขึ้นอีกว่า ในโลกนี้ ยังคงมีความปรารถนาทางเพศ ของใครอีกไหม ที่ยังไม่ได้ถูกฟังอีก

เซ็กส์ และความโรแมนติกในปีนี้ จึงเป็นเซ็กส์ที่ได้นับรวม ความหลากหลาย และให้เวลา ได้รับฟังความปรารถนาที่ ไม่เคยถูกฟังเลย โดยเฉพาะความปรารถนา ภายในของตัวเราเอง

อ้างอิง

In Praise of Slowness, 2004, Carl Honoré