บัลลงดอร์ รางวัลลูกบอลทองคำ ที่มีมนต์ขลังของโลกฟุตบอล ๆ
ในโลกของ การแข่งขันฟุตบอลนั้น ถ้วยแชมป์ ถือได้ว่า เป็นรางวัลสูงสุด ในการเล่นฟุตบอล ซึ่งได้ทุ่มเท มาตลอดทั้งปี แต่ถ้วยแชมป์ หรือถ้วยรางวัล ในโลกของฟุตบอล นั้นมีอยู่มากมาย หลากหลายถ้วยการแข่งขัน ซึ่งในระดับสโมสรนั้น ถ้วยแชมป์ที่โด่งดังที่สุด คงไม่พ้น ยูฟ่าแชมเปี้ยนลีก หรือ ถ้วยสโมสรโลก ส่วนในระดับทีมชาติ ถ้วยรางวัล ที่นักฟุตบอล อยากได้มากที่สุดในโลก ในระดับทีมชาติ ก็คงจะเป็น ฟุตบอลโลก แต่ถ้าเป็นในด้านของ ผลงานส่วนตัว ของนักเตะ ในประปีนั้น บัลลงดอร์ คงเป็นชื่อของรางวัล ที่คนทั้งโลก รู้จักเป็นอย่างดี ในแง่ที่เป็น รางวัลลูกบอลทองคำ ที่ยกให้แก่ นักฟุตบอล ที่ดีที่สุด ในโลก ประจำปีนั้น
โดยประจำปีล่าสุดนั้น คนที่ได้รับรางวัล ลูกบอลทองคำนี้ ได้แก่ ลีโอเนล เมสซี่ สุดยอดนักฟุตบอล อันดับหนึ่งของโลก ที่ได้รับรางวัลนี้จาก การพาทีมชาติ อาร์เจนติน่า ชนะและคว้าแชมป์ โคปาอเมริกา ซึ่งเป็นแชมป์แรก ในระดับทีมชาติ ของเจ้าตัว ซึ่งเป็นการรับรางวัล ที่ค้านสายตา หลายคนเป็นอย่างมาก เนื่องจาก ผู้ท้าชิงอีกคนอย่าง เลวานดอฟสกี้ ซุปเปอร์สตาร์ กองหน้าจอมถล่มประตู ของบาเยิร์น มิวนิค ทำผลงานได้ดีเป็นอย่างมาก ตลอดทั้งปี และยังสามารถยิงได้เยอะที่สุด ในปีปฏิทิน แต่กลับอกหัก กับรางวัล บาลงดอร์ ในปีนี้ ไปอย่างน่าเสียดาย ถ้าครั้งหน้ามีโอกาศ คงจะมาเจาะกับประเด็นนี้กัน แต่วันนี้นั้น Songkhao (ส่องข่าว) เราจะพาไปดู ความสำคัญ ของเจ้าลูกบอลทองคำ ที่คนทั้งโลก ต่างหมายปอง นอกจากนี้ เราจะพาไปดู สถิติต่างๆ ที่น่าสนใจ ว่าเป็นอย่างไรบ้าง ไปดูกันเลย
ก่อนจะมาเป็น บัลลงดอร์
รางวัล บัลลงดอร์ The Ballon d’Or หรือหลายคนรู้จัก ในชื่อว่า ลูกบอลทองคำ Golden Ball เป็นสุดยอดรางวัล ที่มอบให้แก่นักฟุตบอล ที่เก่งที่สุดในโลก หรือนักฟุตบอล ที่มีผลงาน ที่ยอดเยี่ยมที่สุด ของปีนั้น ซึ่งเป็นรางวัล ที่นำเสนอโดย นิตยาสาร France Football ของประเทศฝรั่งเศส โดยเป็นรางวัล ที่ได้จัดขึ้นทุกปี ยกเว้น ในปี 2020 ที่การระบาดของโลก โควิด 19 ซึ่งได้ระบาดอย่างหนัก ในหลายประเทศ จึงทำให้ปีนั้น ยกเลิกการมอบรางวัล บาลงดอร์และกลับมาจัดอีก ในปี 2021 ซึ่งผู้ชนะในปีนี้ ตกเป็นของ เมสซี่ ซึ่งเป็นสมัยที่ 7 ของเจ้าตัวเอง
ประวัติศาสตร์
บัลลงดอร์ The Ballon d’Or หรือรางวัล ลูกบอลทองคำ Golden Ball ถูกจัดตั้ง และคิดขึ้นโดย นักเขียนข่าวด้านกีฬา ที่ชื่อว่า Gabriel Hanot ของนิตยสาร France Football นิตยสาร ด้านกีฬา ของประเทศฝรั่งเศส เมื่อก่อน ทุกคนต่างรู้จัก รางวัลนี้ในชื่อของ รางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปี ซึ่งได้มอบรางวัลนี้ ให้แก่ผู้เล่น ที่อยู่ในทวีปยุโรป แต่ต่อมา ด้วยความรวมมือกับ ฟีฟ่า จึงได้ใช้ชื่อว่า ฟีฟ่า บังลงดอร์ หรือ ฟีฟ่า World Player ที่มอบให้แก่ นักเตะทั่วโลก แม้จะไม่ใช่คนยุโรป โดยคนแรกที่ไม่ใช่ ชาวยุโรป ที่คว้ารางวัลนี้ไปครองได้ นั้นคือ จอร์จ เวอาห์ อดีตนักฟุตบอล ชาวไลบีเรีย ของสโมสร เอซี มิลาน ชาวแอฟริกันคนแรก ที่ได้รับรางวัล บัลลงดอร์ ซึ่งคว้ารางวัลได้ในปี 1995 ซึ่งเป็นปีแรก ที่เปลี่ยนจากรางวัล นักเตะยอดเยี่ยมแห่งทวีปยุโรป มาเป็น รางวัลนักเตะยอดเยี่ยม ของโลก ดังนั้น จึงทำให้นักเตะทั่วโลก ที่มีผลงานยอดเยี่ยม ในปีนั้น ต่างก็มีสิทธิได้รับรางวัล ลูกบอลทองคำนี้
ต่อมาในปี 2015 ฟีฟ่า และนิตยาสาร France Football ได้ตัดสินใจ ไม่ทำรางวัลนี้รวมกันต่อ ดังนั้น ทาง ฟีฟ่า จึงได้ทำรางวัลขึ้นมาอีก 1 รางวัล ที่มอบให้แก่ นักฟุตบอลที่ดีที่สุดในโลก ในปีนั้น ซึ่งก็คือรางวัล The Best FIFA Football Awards (เดอะ เบสต์ ฟีฟ่า ฟุตบอล อวอร์ดส์) ที่จัดครั้งแรก ในปี 2016 โดยแยกออกจากรางวัล บัลลงดอร์
5 อันดับ นักฟุตบอลที่คว้า รางวัลมากที่สุด
รางวัล บัลลงดอร์ นั้นได้จัดขึ้นมา เพื่อมอบรางวัลให้แก่ นักเตะที่ดีที่สุด แห่งปี โดยเริ่มมอบรางวัล ตั้งแต่ปี 1956 โดยนิตยสาร France Football ของประเทศฝรั่งเศส จนกระทั่งร่วมมือกับ ฟีฟ่า และได้แยกทางกัน จึงทำให้มีนักเตะ ที่ได้รับรางวัล บัลลงดอร์ เป็นจำนวนมาก วันนี้เราจะไปดู 5 นักเตะ ที่ได้รับรางวัล นักเตะยอดเยี่ยมแห่งปี บัลลงดอร์ ที่มากที่สุด เหนือผู้เล่นทุกคน ซึ่งจะมีนักเตะคนไหนบ้าง และใครที่ยังเล่นอยู่บ้าง ไปดูกันเลย
อันดับที่ 5 โยฮัน ครัฟฟ์ ( Johan Cruijff )
โยฮัน ครัฟฟ์ หรือชื่อเต็ม แฮ็นดริก โยฮันเนิส ครัฟฟ์ ตำนานผู้ล่วงลับ ชาวเนเธอร์แลนด์ ตำนานแห่งสโมสร อายักซ์ อัมสเตอร์ดัม และสโมสรบาร์เซโลน่า ซึ่งได้รางวัล บัลลงดอร์ไปถึง 3 ครั้งด้วยกัน ในปี 1971 1973 และ 1974 เป็นนักเตะชาวดัตช์ ที่ได้ฉายาว่า นักเตะเทวดา ตำแหน่งกองกลางตัวรุก และกองหน้า สถิติในการยิงประตูกว่า 324 ประตู เป็นนักเตะ ที่ได้ชื่อว่าเก่งที่สุด ในยุค 70 เลยก็ว่าได้
หลังจากเลิกเล่นฟุตบอลแล้วนั้น โยฮัน ครัฟฟ์ ได้เข้าสู่อาชีพ ผู้จัดการทีม ซึ่งได้สร้างรูปแบบฟุตบอล ที่โด่งดังไปทั่วโลก และยังเป็นต้นแบบ ของผู้จัดการทีม ในปัจจุบัน นั้นก็คือฟุตบอลในรูปแบบของ “Total Football” โดยต่อมาในปี 2016 ตำนานแห่ง เนเธอร์แลนด์ ได้เสียชีวิตลงอย่างไม่มีวันหวนกลับ ให้ระลึกไว้แต่เพียง ความเก่งกาจ และความสง่างาม ในการเล่นฟุตบอล
อันดับที่ 4 มิเชล พลาตินี่ ( Michel Platini )
มิเชล พลาตินี่ หรือชื่อเต็มว่า มิเชล ฟร็องซัว พลาตินี่ สุดยอดกองกลางตัวรุก แห่งทีมชาติฝรั่งเศส และสโมสรยูเวนตุส ได้รับรางวัล นักเตะยอดเยี่ยมแห่งปี ไปมากถึง 3 ครั้งในปี 1983 1984 1985 เป็นนักเตะคนแรก ที่คว้ารางวัล บัลลงดอร์ ได้ถึง 3ครั้ง ติดต่อกัน จากการพา ยูเวนตุส คว้าแชมป์มากมาย ในสมัยที่ยังค้าแข้งอยู่ เดิมทีนั้น มิเชล พลาตินี่ เป็นชาวอีตาลี แต่ได้เลือกเล่น ให้กับทีมชาติฝรั่งเศส และพาฝรั่งเศส คว้าแชมป์ยูโร ได้ในปี 1984 จึงได้ฉายาว่า นาโปเลียนลูกหนัง เป็นนักเตะที่เก่งกาจเป็นอย่างมาก ในยุค 80 เป็นกองกลางจอมถล่มประตู ที่สามารถทำประตู ได้มากกว่ากองหน้าหลายคนเลยทีเดียว
หลังจากเลิกเล่นฟุตบอล แล้วนั้น อดีตนักเตะยอดเยี่ยม 3 สมัย ยังเคยเป็นผู้จัดการทีม แม้จะเป็นช่วงเวลาสั้นๆ ก็ตาม อีกทั้งยังเคยดำรงตำแหน่ง ประธานสหพันธ์ฟุตบอลยุโรป หรืออีกชื่อคือ ยูฟ่า (UFA)
อันดับที่ 3 มาร์โก แวน บาสเท่น ( Marco van Basten )
มาร์โก แวน บาสเท่น หรืออีกชื่อคือ มาร์เชล “มาร์โก” แวน บาสเท่น ตำนานนักฟุตบอลชาว เนเธอร์แลนด์ และสโมสร เอซี มิลาน หนึ่งในสามทหารเสือ ของเอซีมิลาน ในยุค 90 ผู้ที่คว้ารางวัล นักเตะยอดเยี่ยมแห่งปี 3 สมัยในปี 1988 1989 และในปี 1992 กองหน้าตัวเป้า ขนานแท้ ในช่วงต้นของยุค 90 เป็นนักฟุตบอลที่เก่งกาจ จอมทล่มประตู ซึ่งพาปีศาจแดงดำ เอซีมิลาน คว้าแชมป์ เป็นจำนวนมาก จึงได้ฉายาว่า “เพชฌฆาตพรายกระซิบ” เจ้าของลูกยิง “ใบไม้ร่วง” ในตำนาน
แต่ถึงแม้เจ้าตัวเอง จะเก่งมากแค่ไหน แต่ก็ต้องยอมแพ้ให้กับ อาการบาดเจ็บ โดยเจ้าตัวได้รับอาการบาดเจ็บ เรื้อรัง สะสม มาเป็นระยะเวลานาน จะทำให้ไม่สามารถ เล่นฟุตบอลต่อได้ จึงทำให้เจ้าตัว ตัดสินใจเลิกเล่นฟุตบอล ในวัยเพียง 28 ปี ต่อมา ในปัจจุบัน เจ้าตัวได้เข้าสู่วงการฟุตบอล ในฐานะ ผู้จัดการทีมฟุตบอล อีกครั้งหนึ่ง
อันดับที่ 2 คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ( Cristiano Ronaldo )
คริสเตียโน่ โรนัลโด้ เครื่องจักรจอมถล่มประตู ตำนานตลอดกาล ของทีมชาติโปรตุเกส และสโมสร สปอร์ติ้ง ลิสบอร์น ,แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ,เรอัล มาดริด และสโมสร ยูเวนตุส ผู้ที่คว้ารางวัล นักเตะยอดเยี่ยมแห่งปี บัลลงดอร์ ไปมากถึง 5 ครั้ง ตั้งแต่ปี 2008 2013 2014 2016 และ 2017 นอกจากนี้ยังคว้ารางวัล ฟีฟ่า เดอะเบสต์ ฟุตบอล อวอร์ด ไปครองได้ถึง 2 สมัย เจ้าของสมญานาม CR7 1 ใน 2 นักเตะที่ดีที่สุดในโลก ณ ปัจจุบัน ร่วมกับ ลีโอเนล เมสซี่ และปัจจุบันยังคงค้าแข้งอยู่
หากย้อนกลับไป ในช่วงปี 2003 คงไม่มีใครคิดว่า โรนัลโด้ เจ้าหนูวัยรุ่น ขี้เลี้ยง จะกลายเป้นนักเตะที่เก่งที่สุดในโลก อย่างในปัจจุบัน ที่ยิงประตูได้ มากที่สุดในโลกปัจจุบัน และตลอดกาล ที่ยากใครจะทำลาย โดยปัจจุบันนั้น เจ้าตัวยังคงค้าแข้ง อยู่ในลีกระดับสูงอย่าง พรีเมียลีก กับต้นสังกัดเก่าอย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และกำลังทำผลงาน ได้อย่างน่าประทับใจ แม้เจ้าตัวจะอายุ 37 ปีแล้วก็ตาม
อันดับที่ 1 ลีโอเนล เมสซี่ ( Lionel Messi )
ลีโอเนล เมสซี่ หรืออีกชื่อ ลีโอ เมสซี่ มนุษย์ต่างดาว แห่งทีมชาติ อาร์เจนติน่า สุดยอดนักฟุตบอล ของสโมสร “เจ้าบุญทุ่ม” บาร์เซโลน่า และปัจจุบัน ยังคงค้าแข้งกับสโมสร ปารีส แซ็ง แฌร์แม็ง แห่งลีกเอิง ฝรั่งเศส เป็นสุดยอดนักฟุตบอล แห่งประวัติศาสตร์ ที่คว้ารางวัล บัลลงดอร์ มากที่สุด ซึ่งคว้าไปถึง 7 ครั้งในปี 2009 2010 2011 2012 2015 2019 และปี 2021 เป็นนักเตะอันดับ 1 ที่ถือครองสถิติ ผู้ที่คว้าบัลลงดอร์ มากที่สุด
ในปัจจุบัน แม้เจ้าตัว จะอายุมากถึง 34 ปีแล้วก็ตาม แต่ยังคงรักษาระดับ ความมสุดยอด ของตนเอง ได้อย่างเสมอ เป็นนักเตะที่เก่งที่สุดในโลก ร่วมกับ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ มาตลอดกว่า 1 ทศวรรษ ซึ่งผลัดกันคว้ารางวัล บัลลงดอร์ มาตลอดกว่า 10 ปี มีเพียง ลูก้า โมดริช เพียงคนเดียว ที่ได้รางวัลนี้ไปครอง ในปี 2018 ในช่วงที่ โรนัลโด้ และเมสซี่ ยังคงค้าแข้งอยู่
จบไปแล้วกับ เรื่องราวของ ลูกบอลทองคำ ที่มอบให้แก่นักฟุตบอลที่ดีที่สุด มากมาย ที่ได้เริ่มต้นในปี 1956 จนกระทั่งได้ร่วมือกับทาง ฟีฟ่า กลายเป็น ฟี่ฟ่า บัลลงดอร์ และได้แยกทางกัน ซึ่งเป็นเรื่องราวที่ยาวนาน เป็นอย่างมาก ไว้มีโอกาส คงจะได้เจาะประเด็นมากกว่านี้