ชวนทาสทั้งหลาย มาทำความเข้าใจเรื่อง “แมวเหมียว” ก่อนรับเลี้ยง

ชวนทาสทั้งหลาย มาทำความเข้าใจเรื่อง “แมวเหมียว” ก่อนรับเลี้ยง - รูปปก

            “แมว” เป็นสัตว์เลี้ยงชนิดที่ใคร ๆ หลายคนต่างหลงรัก ในรูปร่างน่าตา และนิสัยความขี้อ้อน มีความน่ารัก น่าเอ็นดูกันอย่างมากเลยทีเดียว ซึ่งทำให้ทาสทั้งหลาย ต่างตกหลุมรัก สัตว์เลี้ยงตัวน้อยผู้น่ารัก ที่เรียกว่า แมว ไม่แบบไม่ลืมหูตาเลยทีเดียว และนี้จึง เป็นเหตุที่ผู้เขียน จะมาเล่าเรื่องถึง น้องแมวในวันนี้ว่า ทาสทั้งหลาย หากต้องการ มีน้องเข้ามาในชีวิตสักตัวนั้น ต้องเตรียมตัวยังไง ต้องทำความเข้าใจ และพร้อมที่จะรับมี กับการเลี้ยงสิ่งมีชีวิต ที่สื่อสารกันยากกว่า มนุษย์เรานั้น ต้องเริ่มยังไง มาดูกันเลย

            สำหรับบทความนี้ ผู้เขียนจะมาเล่าถึง ประสบการณ์ตรง ของการเลี้ยงแมวเอง และผู้เขียน มีวิธีการรับมือ กันน้องยังไง ทำยังไงถึง เข้าใจภาษาที่น้องเหมียว สื่อออกมาว่าต้องการอะไร จากเราบ้างนั้น มาดูกันว่า การเลี้ยงน้องเหมียว ที่นับว่า ส่งผลดีต่อเจ้าเหมียว และส่งผลดีต่อ บุคคลที่เลี้ยงด้วย ต้องทำยังไงบ้าง ที่จะให้น้องมีนิสัยน่ารัก ไม่ก้าวร้าว และไม่เอาแต่ใจ เริ่มเลย!!!

มาทำความรู้จัก กับนิสัยของแมว สัตว์เลี้ยงขนฟูกัน

สิ่งมีชีวิตที่มี นิสัยอ่อนโยนมาก ๆ เรียกได้ว่า ร้อยละ 90 ของสัตว์ขนปุยชนิดนี้ ทั้งโลกเลยก็ว่าได้ เพราะน้องเหมียวนั้น เป็นสัตว์เลี้ยงที่ ชื่นชอบการเอาใจใส่ และให้ความรัก อยู่ตลอดเวลา ถึงแม้มันจะ มีบางครั้ง ที่เมินเฉยใส่มนุษย์ทาสอย่างเรา ๆ บ้างแล้วละก็ แต่เจ้านายก็ต้องการ ความรักความอบอุ่น จากเจ้าของมันอยู่ตลอดนั้นเอง ยิ่งถ้าหากพวกทาสทั้งหลาย ที่ออกไปทำงานนอกบ้าน มันยิ่งจะคิดถึงเจ้าของ เป็นอย่างมากเลยทีเดียว เมื่อมันเห็นเรา กลับมาบ้านแล้ว มันยิ่งจะดีใจ เข้ามาซบเรา หรือมาถูตามขาเรา มาอ้อนอยากให้เรานั้น อุ้มหรือกอด หอมอยู่ตลอดนั้นเอง

ซึ่งบางลักษณะนิสัย ของเจ้านายบางตัว ก็อาจจะไม่ชอบ ให้ทาสกอดหอม หรือแสดงความเป็นเจ้าของ มากเกินไป เพราะเจ้านายบางตัวนั้น ก็ชอบความสันโดษมาก ๆ เพราะถ้าหากมัน ต้องการความรัก หรือแมวต้องการที่จะ อยากได้ความรัก และความอบอุ่น จากทาสทั้งหลาย เดี๋ยวมันก็จะเข้ามา ถูไถเราเอง ตามนิสัยของเจ้านายนั้นเอง

วิธีการเลี้ยงจ้าวเหมียว จะมีอยู่ 2 แบบคืออะไร?

            ทำไมถึงบอกว่า การเลี้ยงจะมี 2 ประเภท นั้นก็คือ “การเลี้ยงแบบปิด” และ “การเลี้ยงแบบเปิด” นั้นเอง ซึ่งการเลี้ยง 2 แบบนี้ มีความแตกต่างกัน อย่างไรนั้น ดังนี้

การเลี้ยงแบบปิด คือ?

            คือการเลี้ยงแบบ จำกัดพื้นที่ให้น้อง เช่น เลี้ยงในบ้าน, เลี้ยงในกรง เพื่อให้น้อง อยู่ในความดูแลของ ผู้เลี้ยงตลอดเวลา หรือป้องกัน ไม่ให้น้องต้อง ออกไปเจอกับเหตุการณ์ต่าง ๆ ในโลกภายนอก ที่เราลีกเกลี่ยงไม่ได้นั้นเอง

            การเลี้ยงแบบปิดนั้น มีข้อดีมาก ๆ เหมาะกับผู้ที่ ต้องการให้น้อง ไม่เล่นสกปรก เลอะเถอะจนเกินไป หรือไม่อยากให้น้อง ต้องเที่ยวเตร่ไปไหนไกล เพราะแบบปิดนั้น ทาสทั้งหลายจะต้อง มีของเล่นให้น้องเล่น หลาย ๆ ชิ้น เพราะว่าน้องเป็นสัตว์เลี้ยงที่ ชื่นชอบการเล่น พาดโพนมาก ๆ อย่างน้อยควรจะมี ให้น้องเล่นสัก 3 – 4 ชิ้น ให้น้องได้ใช้เวลา ภายในบ้านไม่ให้น่าเบื่อ หรือทำให้เหงาได้นั้นเอง

การเลี้ยงแบบเปิด คือ?

            การเลี้ยงแบบให้อิสระกับน้อง แบบ 100% โดยการไม่บังคับ หรือไม่ปิดกั้น กำหนดพื้นที่ให้น้อง โดยทาสทั้งหลายนั้น เลือกเส้นทาง การเลี้ยงน้องแบบเปิด เพื่อที่จะ น้องจะได้มีอิสระ ในการออกท่องเที่ยว หรือไปพบปะ กับน้องตัวอื่น ๆ และน้องจะได้ หากิจกรรมคลายเครียด โดยหาการเรียนรู้ด้วยตัว สัตว์เลี้ยงของเราเอง ถ้าหากน้อง ต้องการอาหาร หรือเหนื่อยกับการเที่ยวแล้ว เดี๋ยวน้องจะกลับมาบ้านเอง โดยไม่ต้อง ไปบังคับน้อง

            การเลี้ยงแบบเปิด อาจจะทำให้ โรคต่าง ๆ ที่น้องจะไปสัมผัสมา และนำกลับมาบ้านด้วย และน้องอาจป่วยได้ เช่น โรคหัดแมว, เห็บ, หมัด, ฝุ่น, โรคเรื้อนต่าง ๆ เพราะโลกภายนอกนั้น เราไม่สามารถรู้ได้เลยว่า น้องจะไปสัมผัสกับ สิ่งต่าง ๆ อะไรบ้าง เพราะถ้าหากน้อง ไปติดน้องบ้านอื่น หรือน้องจรจัด ที่มีโรคต่าง ๆ อยู่ด้วย และน้องไปสัมผัส หรือไปคลุคลีด้วย แน่นอนว่าสัตว์เลี้ยงของเรา ได้นำโรคเหล่านั้น กลับมาบ้านด้วยแน่นอน 

หากทุกท่าน กำลังจะซื้อน้องเหมียวมาเลี้ยง ต้องเตรียมอะไรบ้าง ก่อนไปรับน้องเข้าบ้าน?

  1. ต้องทำการซื้อของใช้ ที่จำเป็นของน้องต่าง ๆ เช่น กระบะทราย, ที่ตักทราย, ทรายแมว, ถ้วยอาหาร อย่างน้อง 3 ถ้วย (แบ่งเป็นใส่อาหารเม็ด, ใส่นม, ใส่น้ำดื่ม) ของเล่นน้อง เช่น (ไม้ตกเจ้าเหมียว, ลูกบอล, คอนโด) อาหารเปียก, แปรงหวีขน, ผ้าเช็ดตัวน้อย, ไดร์เป่าผม, เสื้อผ้าน้อง (หากเราต้องเลี้ยงให้ห้องแอร์ตลอด น้องควรใส่) กัญชาแมว, หรือสเปร์คลายเครียดเป็นต้น
  2. หากน้องไม่มีเจ้าของ ที่เรารับมาเลี้ยง หรือน้องเหมียวหาบ้าน หลังจากที่ไปรับน้องมาแล้ว ควรพาน้องไปตรวจร่างกาย หรือพาไปฉีดวัคซีน เพื่อป้องกันโรค ที่จะตามมา
  3. อาหารเม็ด หรืออาหาต่าง ๆ ที่เราจะนำมา ให้น้องทานนั้น เราควรเช็คดดูดี ๆ ว่า อาหารยี่ห้อไหน มีความเค็มต่ำ ให้เลือกยี่ห้อนั้น ซึ่งถ้าหาก ซื้ออาหารที่มี ความเค็มสูง จนเกินไป แล้วเลือกซื้อ มาให้น้องทานนั้น อาจจะส่งผล ระยะยาวต่อน้อง อย่างเช่น โรคไต และโรคอื่น ๆ แต่อาหารที่มีโซเดียวต่ำ อาจจะมีราคาแพงหน่อย แต่เพื่อสัตว์เลี้ยงของเรา ให้มีสุขภาพร่างกาย แข็งแรงนะคะ

วิธีการเลี้ยงแมวแบบถูกต้อง

  1. หมั่นทำความสะอาดให้น้องทุก ๆ วัน ยิ่งถ้าหากเราเลี้ยงแบบเปิด ในแต่ละวันน้อง เจอกับฝุ่น และความสกปรกต่าง ๆ โดยการเอาทิชชู่เปียก มาเช็ดทำความสะอาดขนของน้อง เป็นประจำนั้นเอง
  2. อย่าตีน้อง ถ้าหากน้องทำผิด หรือทำข้าวของหล่น หรือทำแตก เพราะน้องชอบความเสียงดัง เวลาที่เราด่าว่าแรง ๆ เพราะน้องไม่ได้ตั้งใจ ที่จะทำของหล่น เพียงเพราะความซุกซน ของน้องนั้นเอง
  3. อย่าต้อนน้องให้จนมุม จนไม่มีทางหนี ไปไหนได้ เพราะน้องจะไม่เชื่อใจ ทาสทั้งหลายอีกต่อไป
  4. อย่าแกล้งน้อง โดยการเอาสิ่งของ ที่น้องกลัว มาทดสอบน้อง อย่างเช่น แตงกวา หรือสิ่งที่สัตว์เลี้ยงของเราไม่ชอบ เพียงเพื่อทำให้เราขำ เพราะมันไม่ใช่ เรื่องน่าหัวเราะสำหรับน้องแน่นอน
  5. อย่าอาบน้ำให้น้องบ่อยจนเกินไป เพราะเจ้าเหมียวเป็นสิ่งมีชีวิต ที่รักขนฟู และขนสวย ๆ ของมันมาก ๆ มันไม่ชอบเวลาที่ ขนมันเปียกนน้ำ หรือต้องสกปรก จากสิ่งต่าง ๆ และเราจะเห็นได้อยู่บ่อยว่า น้องจะชอบเลียขนตัวเอง และความสะอาดตัวเอง หลังจากที่น้อง รับประทานอาหารเสร็จ หรือหลังจากการเสร็จกิจต่าง ๆ นั้นเอง
  6. ให้ความรักควาอบอุ่น เมื่อน้องต้องการ แต่ไม่ควรไปล้ำเส้น เวลาส่วนตัวของน้องมากจนเกินไป เพราะชอบอิสระมาก ๆ ไม่ควรไปบังคับ หรือไปล้ำเส้น เวลาส่วนตัวการนอน ของน้องนั้นเอง
  7. น้องชื่นชอบให้เรา แสดงความรักความอบอุ่น ต่อน้องมาก ๆ หากถึงเวลาที่น้องต้องการ แต่ไม่ควรไปแสดงความรัก หรือไปกอดรัดฟัดเหวี่ยงน้อง จนมากเกินไป ถึงแม้น้องจะชื่นชอบ สัมผัสหรือถูไถเราก็ตาม 

นี้ก็เป็นเพียงแค่ ความรู้เบื้องต้น ที่ทาสทั้งหลายควรรู้ ก่อนที่นำน้องเข้ามาเลี้ยงดู ภายในบ้าน ว่าต้องเตรียมอุปกรณ์อะไรยังไง ต้องเตรียมรับมือยังไง และเรียนรู้นิสัยสัตว์เลี้ยง เบื้องต้นก่อนจะสัมผัส นิสัยน้องจริง ๆ ซึ่งน้องอาจจะนิสัย ไม่เหมือนกับที่ผู้เขียน พูดมากทั้งหมด เพราะน้องบางตัว ก็มีนิสัยแตกต่างกันไปนั้นเอง หวังว่าทุกท่าน จะได้เรียนรู้ วิธีการรับมือกับเจ้าขนปุย ของทุกท่านได้อย่างดี หลังจากอ่านบทความนี้แล้ว ทุกท่านสามารถเข้ามา อ่านบทความต่าง ๆ หรือติดตามข่าวสารอื่น ๆ ได้ใน Songkhao ได้เลย

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *