6 สัตว์เลี้ยง สุดแปลกที่สามารถเลี้ยงได้ EP.1
บอกได้เลยว่า หากท่านคนไหน ที่รักในการเลี้ยงสัตว์ นั้นต้องได้เข้ามาอ่านข่าวเกี่ยวกับ สัตว์เลี้ยง สุดแปลก จากเว็บ Song Khao ส่องข่าวของเรา เพื่อที่ท่านนั้นจะได้ รับรู้ข้อมูลของ สัตว์เลี้ยง เหล่านั้น เผื่อท่านนั้น สนใจ อยากที่จะเลี้ยง น้อง ๆ ท่านนั้นจะได้รู้ราคา และ ลักษณะนิสัย ของพวกเขาได้และวันนี้ ทาง Song Khao นั้นจะขอพาทุก ๆ ท่านนั้น ได้ไปรู้จักกับ สัตว์ เลี้ยงสุดแปลก 6 ชนิด ดังนี้
1. หนูแฮมสเตอร์ (Hamster)
เริ่มกันที่หนูแฮมสเตอร์ตัวจิ๋วน่ารักตัวนี้กัน หลายคนเคยเห็นและเคยผ่านตากันมาบ้างกันแล้ว กับเจ้าหนูตัวจิ๋ว ตัวน้อยนี้ เพราะในประเมศ ไทยของเรานั้นได้มีการ นำเข้ามาเลี้ยงกันเมื่อหลายปีก่อน และก็ยังเป็นที่นิยม กันอย่างมากอีกด้วย สำหรับในการ เลี้ยง หนูแฮมสเตอร์นั้น ได้ถูกจัดว่าเป็นสัตว์ประเภท สัตว์เลี้ยง ลูกด้วยนมขนาดเล็กและที่สำคัญมีส่วนหางที่สั้นเป็นอย่างมากอีกด้วย เรียกได้ว่าเกือบ จะไม่มีหางให้เราได้เห็นกันแล้ว หนูบ้าน หรือ ดัมโบ้แรท และหนู สายพันธุ์ นี้เหมาะกับ คนที่กลัวหางหนู เป็นอย่างมาก หากท่านนั้นมีอาการ ที่กลัวหางหนู ท่านนั้นสามารถเลี้ยง หนู้ สายพันธุ์นี้ได้อย่างสบายใจได้เลย
และหนูแฮมสเตอร์นี้ จะมีอายุเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 2 ปี ถึง 2 ปีกว่า โดยถือว่ามีอายุที่สั้นมาก ๆ โรคที่พบได้บ่อยคือ โรคเกี่ยวกับฝี เนื้องอก ซีสต์ และ มะเร็ง สัตว์ประเภทนี้ไม่เหมาะสำหรับเด็ก เพราะเนื่องด้วย เจ้าหนู สายพันธุ์นี้นั้น มีความบอบบางเป็นอย่างมาก และยังต้องการการดูแลเอาใจใส่ ที่ดีที่สุด ในระดับหนึ่งอีกด้วย โดย ราคาเริ่มต้น : ตัวละ 50 บาทขึ้นไป ยิ่งสีสวย ฟอร์มดีจะยิ่งมีราคาแพง
2. กระต่าย
เป็นอีกหนึ่ง สัตว์เลี้ยง ที่ยังคงได้รับความนิยม กันเป็นอย่างมากกับเจ้า กระต่าย เพราะด้วยความน่ารัก ขนปุกปุยนุ่มนิ่ม และฟันหน้าเพียงไม่กี่ซี่นั้น จะทำให้ท่านนั้นหลงรักเจ้ากระต่าย ได้อย่างแน่นอน และ ก็เป็นเสน่ห์ ชวนให้มนุษย์หลงใหล จนโดนตกโดยไม่รู้ตัว โดยปกติแล้วนั้น เจากระต่ายนั้นส่วนใหญ่นั้น จะเป็น สัตว์เลี้ยง ที่ถูกล่า ดังนั้น กระต่าย จึงมีประสาทสัมผัสที่ไวต่อสิ่งรอบข้างเพื่อเอาตัวรอดเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็น ทั้งการได้ยินเสียง กลิ่น รวมถึงสายตา ที่สามารถมองได้เกือบ 360 องศากัน เลยทีเดียวเรียกได้ว่ามองเห็นรอบทิศทางกันเลยทีเดียว และขาหลังของมันนั้น ก็ยังเป็นเป็นอวัยวะที่แข็งแรงมาก ๆ สามารถกระโดดได้สูง ราว ๆ 1 เมตรและ พุ่งตัวไปได้ไกลกว่า 3 เมตรเลยทีเดียว และเนื่องจากกระต่ายเป็นสัตว์สังคม หากท่านนั้นสนใจที่จะเลี้ยงน้องนั้น ทาง Song Khao นั้นแนะนำให้เลี้ยงน้อง แบบเป็นกลุ่ม น้องจะได้ไม่เหงา
อัพเดตข่าวล่าสุด แดงเดือดในไทย 12 กค. 65 ที่จะถึงนี้
สำหรับสายพันธุ์กระต่าย ที่ผู้คนส่วนใหญ่นั้น ทยมเลี้ยงกันนั้นก็จะมี Holland Lop, Netherland dwarf, Teddy Bear, และ Flemish giant และมี ราคาเริ่มต้น : ตัวละ 80 บาทขึ้นไป ยิ่งสีสวย ฟอร์มดีจะยิ่งมีราคาแพง
3. ชูการ์ ไกลเดอร์ (Sugar glider)
เจ้าตัวเล็กนี้มีชื่อเรียก ได้เยอะมาก ๆ บางคนเรียกว่าชูการ์ ไกลเดอร์, กระรอกบิน, จิงโจ้บิน เพราะเนื่องด้วยน้องนั้น มันมีกระเป๋าหน้าท้องเหมือนจิงโจ้ และกระรอกบินออสเตรเลีย ที่ได้ชื่อว่ากระรอกบินออสเตรเลียนั้นเป็นเพราะมีถิ่นกำเนิดที่ประเทศออสเตรเลียนั่นเอง โดยอยู่ในกลุ่มสัตว์ที่มีกระเป๋าหน้าท้องสำหรับเลี้ยงลูก กลุ่มเดียวกันกับ จิงโจ้และหมีโคอาล่า และยังพบได้ที่เกาะปาปัวนิวกินี ประเทศอินโดนีเซียด้วย
ลักษณะของน้อง ชูการ์ ไกลเดอร์ นั้น ค่อนข้างที่จะมีลักษณะ ใกล้เคียงและ คล้ายกับกระรอก เป็นส่วนใหญ่ ที่แตกต่าง ก็จะมีแค่ ดวงตาที่กลมโต และค่อนข้างปูดโปนออกมาจากตาเป็นอย่างมาก และสีตามีทั้ง สีดำและสีแดง ข้างลำตัวมีพังผืดจากบริเวณข้อมือทั้งสองข้างของน้อง ตลอดจนถึงข้อเท้า ทั้งสองข้าง พังผืดนี้ใช้ในการ ช่วยร่อนหรือบินจาก กิ่งไม้หนึ่งไปอีกกิ่งหนึ่งในธรรมชาติ และหางของน้องนั้น ช่วยในการ ทรงตัวร่วมด้วย น้ำหนักตัวอยู่ที่ประมาณ ราว ๆ 9 0 – 1 5 0 กรัม ความยาวตั้งแต่ปลายจมูก จนไปถึงปลายหางประมาณ 12 นิ้ว ขนแน่นนิ่มละเอียดทั่วทั้งตัว มีทั้งสีเทาแถบน้ำตาล สีขาวแถบน้ำตาลเข้ม และสีขาวล้วน
พรพรรณ กัปตันทีม วอลเลย์บอลสาวไทย ส่งคำเตือนนัดหน้าแก้มือใหม่
ชูการ์ ไกลเดอร์ นั้นเป็นสัตว์ที่ต้องการการดูแลและเอาใจใส่ เป็นอย่างมาก เรียกได้ว่า หากใครที่อยากจะเลี้ยงน้องนั้น ต้องมีทั้งเวลา เพื่อที่จะได้ มาดูแลเอาใจใส่น้อง เนื่องจาก น้องนั้นเป็นสัตว์ สังคมน้องจึง ต้องการ การดูแล เอาใจใส่ จากเจ้าของ เป็นอย่างมาก หากท่านนั้นสนใจที่ อยากจะเลี้ยงเจ้าตัวนี้นั้น น้องก็มีราคาอยู่ที่ ราคาเริ่มต้น : ตัวละ 900 บาทขึ้นไป ยิ่งสีสวย ฟอร์มดีจะยิ่งมีราคาแพง