บอกเล่าเรื่องราวการเมืองในอดีตผ่านเหล่า แฟชั่น เครื่องแต่งกายในงาน MET GALA 2022

SONGKHAO-แฟชั่น-Met-Gala

อย่างที่ทราบกันดีว่า ครั้งแรกของ Met Gala นั้นได้เริ่มขึ้นเมื่อปี 1948 ซึ่งจุดประสงค์ของการจัดงานนี้ขึ้นมา นั่นก็เพื่อที่จะระดมเงินให้กับ Metropolitan Museum of Art’s Costume Institute ซึ่งเป็นสิ่งที่ยังคงอยู่ตราบเท่าจนทุกวันนี้ แม้ว่าความจริงแล้ว เหล่าผู้ทรงอิทธิพลทั้งหลายของรัฐนิวยอร์ค ที่ได้ร่วมเพลิดเพลินไปกับค่ำคืนอันสุดแสนจะหรูหรานั้น มิได้ทำให้ชื่อเสียงของตนหมองมัวแต่อย่างใด ในขณะที่งาน Met Gala ได้มีการพัฒนาขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา จากงานเลี้ยงที่แสนสนุกสนาน ในมุมที่หาได้ยากจากเหล่าสังคมชั้นสูงใน Manhattan จนถึงกระทั่งเหล่าผู้มีชื่อเสียงที่สุดในงาน (แม้ว่าในขณะนี้จะถูกจับตามองจากเหล่าผู้ชมทั่วทุกมุมโลก) แฟชั่น บนพรมแดงเองก็ได้มีการเปลี่ยนไปเช่นเดียวกัน

MET GALA 2022 กับเหล่า แฟชั่น ที่บอกเล่าเรื่องราวผลักดัน LGBTQIA+ Community

ซึ่งแน่นอนว่า ธีมของอีเวนต์ในแต่ละปีนั้นก็จะมีรูปแบบ ที่ถูกจัดเตรียมไว้ต่างกันออกไป ซึ่งสามารถเห็นได้ตั้งแต่ลุคที่ทำเครื่องหมายว่า Punk: Chaos to Couture ในปี 2013 ไปจนถึงชุดที่หรูหรา ระยิบระยับสู้ตาอย่าง Camp: Notes on Fashion ในปี 2019 จนกระทั่งมาถึงปีนี้ในธีม “Gilded Glamour” เพื่อเฉลิมฉลองในอเมริกาในเรื่องของ บทกวีนิพนธ์แห่งแฟชั่น แต่กลับกันเมื่อหลายปีที่ผ่านมา แสงสปอตไลท์เองก็เริ่มชัดขึ้นเรื่อย ๆ เหล่าดาราเองก็เริ่มมีทัศนคติทางการเมืองอย่างตรงไปตรงมา ซึ่งยอมรับได้เลยว่า ค่ำคืนแห่ง Met Gala นั้น จะเป็นเวทีที่นำมาซึ่งการแบ่งปันกันในเรื่องหลักการ และ ความเชื่อของพวกเขาผ่าน เสื้อผ้า แม้ว่าเหล่าบุคคลสำคัญทางการเมืองจะเดินพรมแดง มันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร แต่ถ้าเคยเห็นการปรากฏตัวของ Hillary Clinton ในงานกาล่าปี 2001 ที่ผูกตัวเองติดกับนิทรรศการบนตู้เสื้อผ้าทำเนียบขาวของ Jackie Kennedy ล่ะก็ – จะรับรู้ได้เลยว่าเสื้อผ้ามันกำลังแปรเปลี่ยน เป็นข้อความทางการเมืองอย่างชัดเจนเลยทีเดียว

SONGKHAO-แฟชั่น-Met-Gala-1

เรียกได้ว่าขอแสดงความนับถือให้กับ Lena Waithe เลยล่ะค่ะ เพราะเจ้าตัวนั้นเป็นหนึ่งในกลุ่มคนแรก ๆ ที่อยู่ในปี 2018 จากผู้สร้างภาพยนตร์และนักแสดง ที่ได้ท้าทายการประชุมสำหรับธีมกลางคืนของ Heavenly Bodies: Fashion and the Catholic Imagination โดยสวมเสื้อคลุมของ Carolina Herrera ในธีมสีรุ้งของธง Pride เพื่อนำเสนอถึงการโต้เถียงอันทรงพลังด้วยผมหยิกสไตล์บาโรกและไม้กางเขนปิดทองในทุกค่ำคืน ยิ่งถ้าหากพูดถึงประวัติศาสตร์อันแสนยาวนานของคริสตจักร ในปากปิดปากและปราบปรามชุนชนเหล่า LGBTQIA+ “ฉันเป็นตัวแทนของเหล่าชุมชนของฉัน และฉันต้องการให้ทุกคนรู้ว่าคุณสามารถเป็นใครก็ได้ และฉันช่างภูมิใจอย่างยิ่งเลยที่ได้ลงมือทำมัน” เธอกล่าวกับนิตยสาร Vogue ในค่ำคืนนั้น

และในปี 2019 ก็ได้กำหนดธีมของชุดว่า “Camp” ก็ได้มีการกำหนดการดำเนินงานในตอนเย็น ซึ่งหลายคนอาจจะคาดหวังว่าคนดังจำนวนมากนั้น จะทำตามวิธีของ Waithe และยอมรับให้ธีมดังกล่าว เป็นดั่งโอกาสในการสนับสนุนสิทธิของ LGBTQIA+ แต่ทว่าค่ำคืนนั้นเป็นการเฉลิมฉลองประวัติศาสตร์ ของวัฒนธรรรมเพศทางเลือก อย่างไม่ต้องสงสัยเลย และบอกเลยว่านั่นก็มีผลกระทบกับแฟชั่น ศิลปะ ภาพยนตร์ และอื่น ๆ อีกมากมาย อันที่จริงแล้ว Waithe เป็นคนหยิบเอาเสื้อคลุมขึ้นมาอีกครั้ง โดยร่วมมือกันกับ Kerby Jean-Raymond แห่ง Pyer Moss ในการสวมชุดลายทางปักลายด้วยสโลแกนที่ Jean Raymond ปีระท้วงการแบ่งพื้นที่โดยสนับสนุนชุมชนของคนผิวดำ ด้วยคำว่า “Pool Money” และ “Buy Back The Block” Waithe เป็นคนเตือนกับพวกเราว่า “เหล่า Drag Queen คนดำต่างหากล่ะที่เป็นคิดค้นธีม Camp”

SONGKHAO-แฟชั่น-Met-Gala-2

 แต่เมื่อกระทั่งปีที่แล้วนั้น คนดังหลายคนก็ได้กลับมาเดินพรมแดงอีกครั้ง หลังจากที่ห่างหายไปจากโควิด-19 ไป ทำให้รู้สึกเหมือนกับว่าศักยภาพในด้านทางการเมืองของงาน Met Gala นั้น ถูกปลดปล่อยออกมาในที่สุด ซึ่งสส. Carolyn B Maloney ผู้ซึ่งสวมใส่เสื้อแจ็กเก็ตนักผจญเพลิงในงานกาล่าปี 2019 เพื่อเป็นเกียรติแก่ใบเรียกเก็บเงินที่เธอสนับสนุน ซึ่งเป็นหนึ่งในกลุ่มคนแรก ๆ ที่สวมใส่ชุดสุดตระการตา เพื่อทำการยกย่องการเคลื่อนไหวของเสียงผู้หญิง (กระเป๋าเงินของเธออ่านว่า “ERA Yes” ซึ่งสนับสนุนการแก้ไขสิทธิที่เท่าเทียมทางเพศเพื่อถือเป็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญ)

ซึ่งมันก็เป็นเรื่องง่ายที่เดียวหากจะมีการถกเถียงกัน ว่ามันเป็นคืนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในปฏิทินแห่งแฟชัน – ซึ่งแต่งแต้มเต็มไปด้วยเหล่าเสื้อคลุมที่สุดแสนสะดุดตา ที่สร้างขึ้นมาเพื่อรองรับน้ำหนักได้หลายพันปอนด์ – ว่านั่นไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะบอกเล่าเรื่องราวทางการเมืองอันกล้าหาญ เพราะฉะนั้นมันจึงเป็นเรื่องที่ค่อนข้างไม่มีแก่นสารอะไร ที่จะคาดหวังให้เหล่าแขกผู้ร่วมงานส่วนใหญ่ก้าวออกมา ในรูปแบบของแฟชันที่ปกคลุมไปด้วยคำขวัญทางการเมือง Met Gala คือค่ำคืนของผู้ที่หลงใหลในแฟชั่น สามารถสนุกสนานไปกับเหล่าเสื้อผ้า แม้ว่าข้อความอาจจะดูพื้นฐานหรือมีคมเขี้ยว

ซึ่งนั่นเองก็นำพาเราทุกคน ไปสู่สิ่งที่อาจเป็นปรากฎการณ์ทางการเมือง ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่เคยเกิดขึ้นบนพรมแดง Met Gala การปรากฏตัวของ Alexandria Ocasio-Cortez เมื่อปีที่แล้วนั้น เป็นอะไรที่เสียงจะเริ่มต้น การตรวจสอบอย่างเคร่งครัดจากผู้เชี่ยวชาญ เช่น ปฏิกิริยาการคุกเข่าต่อชุดดีไซเนอร์ของเธอบนหน้าปก Vanity Fair ซึ่งนั่นหมายความว่าไม่มีทางเลยที่ผู้หญิงคนนี้ จะก้าวขึ้นไปบนพรมแดงแล้วไม่มีความแตกตื่น ซึ่งชุดที่เจ้าตัวหล่อนเลือกนั้น เป็นชุดที่กล่าวถึง James ผู้บงการเบื้องหลังของ 15 Percent Pledge ซึ่งได้ลงนามกับเหล่าผู้ค้าปลีกหลายราย เพื่ออุทิศเงินส่วนหนึ่งให้กับแบรนด์ที่เจ้าของเป็นคนผิวดำ และดูเหมือนว่า Ocasio-Cortez จะพยายามเลี่ยงข้อโต้แย้ง เธอจึงกล่าวง่าย ๆ บนชุดของเธอว่า “Tax the rich.”

SONGKHAO-แฟชั่น-Met-Gala-3

เห็นได้อย่างชัดเจนเลยล่ะค่ะว่าเหล่า แฟชั่น ของคนดัง เซเลบริตี้ตั้งแต่ในอดีตจวบจนปัจจุบัน ได้มีการเปลี่ยนไปเป็นอย่างมากเลยทีเดียว ซึ่งก็ได้มีดาราหลาย ๆ คนเอง ได้แสดงความคิดเห็นของตนออกมาผ่าน ชุด การแต่งตัว สไตล์ของตนเองในงาน Met Gala และแต่ละข้อความเอง ก็ช่างสร้างความ Impact ให้กับวงการบันเทิงเป็นอย่างมากเลยทีเดียว เรียกได้ว่า Fashion Industry กับเรื่องการเมืองนี่ แทบจะตีคู่มาด้วยกันอยู่ล่ะค่ะ เป็นยังไงบ้างล่ะคะ หลังจากอ่านบทความนี้จบแล้ว เห็นอะไรบ้างในงาน Met Gala หวังว่าผู้อ่านจะได้รับประโยชน์จากทาง SONGKHAO นะคะ สำหรับวันนี้ลาก่อนและสวัสดีค่ะ

ขอขอบคุณข้อมูลจาก : Vogue.uk

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *