ตุ่นปากเป็ด สัตว์หน้าตาแปลกประหลาดที่สุดในโลก

Songkhao- ตุ่นปากเป็ด สัตว์หน้าตาแปลกประหลาดที่สุดในโลก-ปก

วันนี้ทางเรา Songkhao อยากจะมานำเสนอ เรื่องของ สัตว์ที่แปลกประหลาดที่สุดในโลก คือ ตุ่นปากเป็ด หรือ แพรรี่ปากเป็ดชื่อในการ์ตูน ชื่อดังนั่นเอง เหมือนถูกดัดแปลง มาจากโลกมนุษย์ต่างดาว เป็นสัตว์ที่อยู่ในถิ่นฐาน ของประเทศออสเตรเรีย ที่มีความแปลกประหลาด อย่างยิ่ง เป็นสัตว์ที่เลี้ยงลูกด้วยนม และออกมาเป็นไข่ หลั่งเหงื่อทางด้านร่างกาย ออกมาเป็นน้ำนม และมี เดือยพิษที่ฝ่าเท้า ล่าสุด มีนักวิทยาศาสตร์ค้นพบ อีกว่า แพรรี่ปากเป็ด เวลาอยู่ในที่มืด สามารถเรืองแสงได้ด้วย ทั้งมีพันธุกรรมของนก และสัตว์เลื้อยคลาน รวมอยู่ในตัว กับยีนสัตว์เลี้ยงลูก ด้วยนมอีกด้วย ชอบอาศัยอยู่ทั้งบนบก และ ในน้ำ นิสัยของมัน จะชอบออกหากินตอนกลางคืน

ลักษณะเฉพาะทาง ของตุ่นปากเป็ด

เป็นสัตว์ ที่มีปากเป็ด เพียงสปีชีส์เดีย เรียกได้ว่า เป็นสัตว์ ที่แปลกประหลาด มากที่สุดในโลก เลยก็ว่าได้ เราจะพามาดูลักษณะ ตั้งแต่ ลำตัว จรดเท้าของ สัตว์ชนิดนี้ กัน

ส่วนของลำตัว

มีลำตัวแบน หัวเรียว ท้ายเรียว ในตัวเต็มวัยส่วน ตัวผู้ จะมีความยาวที่50 เซนติเมตร หนักโดยประมาณ 1.8 กิโลกรัม  และตัวเมียจะมี ความยาวเฉลี่ยที่ 45 เซนติเมตร หนักโดยประมาณ 0.10 กิโลกรัม นอกจากบริเวณปาก และเท้าแล้ว มีขนปกคลุมทั้งตัว แพรรี่ปากเป็ด มีขนสองชั้น ขนชั้นนอกขนหยาบ และขนชั้นในที่มี เส้นละเอียดหนาแน่น มีตั้งแต่สีเทาไปจนถึง สีน้ำตาลเข้ม ขนชั้นล่าง สามารถกันน้ำได้ ช่วยรักษาอุณหภูมิ ของร่างกายให้คงที่ ยาม แพรรี่ปากเป็ด ดำ ลงไปในน้ำที่เย็นจัด จนเกือบจับตัว เป็นน้ำแข็ง

ส่วนของปาก และจมูก

ปากของ มีรูปร่างคล้าย ปากเป็ด ยืดหยุ่น คล้ายยาง ลักษณะของปากบน จะมีสีน้ำเงินปนๆสีเทา  มีรูจมูก อยู่ถัดมาจากปลายปากบน เล็กน้อย การที่รูจมูกอยู่ตำแหน่งนี้ จะช่วยให้ หายใจได้ดี ขณะลำตัวอยู่ใต้น้ำ ปากล่างมีขนาดเล็ก กว่าปากบน ใต้ปากล่าง เป็นสีชมพูอ่อน หรือเป็นจุดหลากหลายสี ด้านหลังของปากส่วนที่ต่อกันกับหัว มีกะบังยกขึ้นเล็กน้อย เหนือหน้าผาก

ส่วนของตา และหู

ตาอยู่หลังกระบังปาก หูอยู่ด้าน ข้างหัวเป็นเพียง ช่องเปิด ไม่มีลักษณะของใบหู ขณะดำน้ำ จะปิดหู ปิดตาจึงจำเป็น ต้องใช้อวัยวะอื่น ในการนำทางตอน  อยู่ใต้น้ำ แต่เวลา  อยู่บนบก ตาและหู ใช้งานได้ตามปกติ สัตว์ชนิดนี้ หูและตาไวมาก  สามรถมองเห็นได้ในระยะไกล แต่เพราะตำแหน่งของตา อยู่หลังกะบังปาก จะมองสิ่ง ที่อยู่ใต้จมูก ไม่ถนัด

ส่วนของ ขาและเท้า

ตุ่นปากเป็ดมี ขาสั้นอุ้งเล็บ  แข็งแรง ใช้เท้าขุดดินได้ดี เท้าคู่หน้า  เป็นพังผืดติดกันทุกนิ้ว ใช้เฉพาะขาหน้า ในการดึงตัว ไปขณะว่ายน้ำ ขาหลังซึ่งมีพังผืด เพียงบางส่วนทำหน้า ที่ร่วมกับหาง เป็นเพียงหางเสือ บังคับทิศทางดพียง เท่านั้น คงเพราะเท้าพังผืดนี่เอง ที่ตุ่นปากเป็ด มีอีกชื่อสามัญ ที่เรียกว่า เท้าแบน เมื่อลงน้ำพังผืดระหว่างอุ้งเท้า จะแผ่ออก เปลี่ยนเท้าเป็นพาย ที่มีประสิทธิภาพ แต่เมื่ออยู่บนบกมันจะพับ พังผืดเก็บไว้ จะได้ใช้กรงเล็บ ขุดอุโมงค์ยาว ๆได้ โดยที่พังผืดไม่เสียหาย ที่ข้อเท้าหลัง ของตัวผู้มีเดือยยาว ประมาณ1.5  เซนติเมตรยื่นออกมา เดือย มีรูกลวง ต่อไปยังต่อมพิษที่ต้นขา บริเวณใกล้ท่อ  สืบพันธุ์และขับถ่าย  เวลาเดินเท้ากางยื่นออกมานอก ลำตัว คล้ายกับสัตว์ เลื้อยคลาน แต่เป็นสัตว์เลี้ยงลูก ด้วยนม

ส่วนของหาง

หางของตุ่นปากเป็ด  แบนกว้าง เช่นเดียว กับลำตัวสร้าง  มาจากไขมัน เพราะมันจะ  สะสมไขมันไว้ที่หาง เพื่อเก็บพลังงาน ไว้ใช้ในฤดูหนาว ในขณะที่บีเวอร์ ใช้หางขับเคลื่อน ยามว่ายน้ำ เพียง แต่ใช้หางในการบังคับ ทิศทางเท่านั้น จะม้วนหาง จับใบไม้เอาไว้ขณะขนใบไม้ ไปสร้างรัง ประโยชน์ของหางอีกอย่าง  คือใช้ห่มร่างกาย ตอนกกลูก นักวิทยาศาสตร์   สามารถวัดระดับสุขภาพ ได้จากการบีบหาง

การหาอาหาร ของตุ่นปากเป็ด

เป็นสัตว์  ที่ออกหากินในตอนกลางคืน แม้ว่า แพรรี่ปากเป็ด จะเกิดและอาศัย อยู่บนบก แต่การหากิน และใช้เวลาส่วนใหญ่จะอยู่ในน้ำ ตามแหล่งน้ำจืดทั่วไป เช่นลำธาร แม่น้ำและทะเลสาบ ด้วยลำตัว ที่เพรียว มีขาสั้นอุ้งเล็บ แข็งแรง ใช้ขุดดินได้ดี เท้าคู่หน้าเป็นพังผืด ติดกันทุกนิ้ว แพรรี่ปากเป็ด ใช้เฉพาะขาหน้าในการดึงตัว ไปขณะว่ายน้ำ ขาหลังซึ่ง มีพังผืดเพียงบางส่วนทำหน้าที่ ร่วมกับหาง เป็นเพียงหางเสือ บังคับทิศทางเท่านั้น เมื่อลงน้ำ พังผืดระหว่างอุ้งเท้า จะแผ่ออก เปลี่ยนเท้าเป็นพาย ที่มีประสิทธิภาพ แต่เมื่อ แพรรี่ปากเป็ด อยู่บนบก มันจะพับพังผืด เก็บไว้ จะได้ใช้กรงเล็บขุด อุโมงค์ยาว ๆได้  โดยที่พังผืดไม่เสียหาย ด้วยลักษณะดังกล่าว สัตว์ชนิดนี้ว่ายน้ำ และดำน้ำได้ดีมาก ขณะดำน้ำ หาอาหา รมันจะส่ายปากไปมา เนื่องจากบริเวณปาก  มีหน่วยรับความรู้สึกเชิ งประจุไฟฟ้า ในการหาอาหาร เพื่อตรวจจับเหยื่อ ที่มันจะล่า

ตุ่นปากเป็ด เรืองแสงได้ ในที่มืด

รู้หรือไม่ ว่า สัตว์ชนิดนี้ เป็นสัตว์แปลก ที่สามารถเรืองแสงออกมาได้  มีนักวิจัยบังเอิญ ไปพบ สัตว์ชนิดนี้ เรืองแสงออกมา ในตอนกลางวัน ภายใต้แสง UVได้ หลังจากนัก นักวิจัยเลยส่งเรื่อง ไปตีพิมพ์ลงหนังสือพิมพ์ ผู้คนที่รับรู้ข่าวนี้ ต่างพากัน ตื่นเต้นและตกใจ กันเป็นอย่างมาก เนื่องจาก ตัวแพรรี่ หรืออีกชื่อเรียกหนึ่ง ของตุ่นปากเป็ด ถือว่าเป็นสัตว์ ที่ประหลาดมากๆแล้ว เท่านั้นยังไม่พอ ยังเป็น สัตว์ ที่มีพิษ และเลี้ยงลูกด้วยนม ที่ออกลูกออกมาเป็นไข่ มีสัตว์เพียง ไม่กี่ชนิดเท่านั้น  แต่ผลล่าสุด ที่นักวิจัย กล่าวมาว่า ตัวแพรรี่ ยังสามารถเรืองแสงได้อีกด้วย ถือเป็นสัตว์ ที่ประหลาดมากๆ เหมือนหลุดออกมา จากต่างดาว การค้นพบนี้ ฮือฮาพอควร แต่มันกำลัง จะนำเราไปสู่การค้นพบ ที่ทำให้ผู้คนสงสัยกันต่อว่า ทำไมเราเพิ่งมารู้ ว่า สัตว์ชนิดนี้ เรืองแสงได้  การเรืองแสงของ สัตว์ชนิดนี้ ยังไม่มีคำอธิบาย ทางวิวัฒนาการ  ว่ามาได้ยังไงชัด ๆ แต่นักวิจัย คนอื่นๆ ที่เห็นผล วิจัยนี้ ก็เริ่มสงสัยว่า อาจจะไม่ใช่ แค่ สัตว์ชนิดนี้ ที่เรืองแสงได้ อาจจะมีสัตว์ ชนิดอื่น ที่เรืองแสงได้เหมือนกัน แต่แค่ไม่รู้เพียงแค่นั้น นักวิจัยขี้สงสัย ก็เลยไปลองเอา แสง UV ส่อง ตัวกินมดหนาม ซึ่งเป็นสัตว์ ที่เป็นญาติ ใกล้ชิดกับ แพรรี่ปากเป็ด และยังออกลูกด้วยไข่ เหมือนกัน ผลปรากฎว่า ตัวกินมดหนาม ก็เเรืองแสง ได้เหมือนกัน และมากไปกว่านั้น มีสัตว์ ที่เรืองแสงได้ แต่ยังมีสัตว์ อีกหลายชนิด ที่เรืองแสงได้เช่นกัน

การควบคุม อุณหภูมิร่างกาย ของ ตุ่นปากเป็ด

ตุ่นปากเป็ด ต้องเผชิญกับอุณหภูมิ  ที่เปลี่ยนแปลง อยู่ตลอดทั้งปี ทั้งบนบก และในน้ำ และเนื่องจาก ตุ่นปากเป็ดเป็นสัตว์เลี้ยง ลูกด้วยนม จึงเป็นสัตว์ เลือดอุ่น สัตว์เลือดอุ่น มีระดับอุณหภูมิ ของร่างกายคงที่ ไม่เปลี่ยน ไปตามสภาพแวดล้อม เหมือนสัตว์เลือดเย็น ในฤดูหนาว แม้ในวันที่ หนาวเยือดเย็น มาก แพรรี่ปากเป็ดก็ยัง ออกว่ายน้ำหาอาหาร ความจริงข้อนี้ ทำให้นักวิจัย  ตัดข้อสงสัยที่ว่า มันอาจจะเป็นจำพวก สัตว์เลื้อยคลาน ออกไปได้ เพราะอย่างที่รู้  กันดีว่า เวลาอากาศ หนาวเย็น สัตว์เลื้อยคลาน จะลดอัตราเมแท บอลิซึมลง ซึ่งจะทำให้ อุณหภูมิในร่างกาย ของมันลดลง และทำให้มีอาการ เซื่องซึม หาก แพรรี่ปากเป็ด ลดอัตราเมแท บอลิซึมลงด้วย มันก็คงไม่สามารถ ออกไปหาอาหาร  ที่ก้นแม่น้ำได้ ในทางตรงกันข้ามอากาศ ยิ่งหนาว ก็ยิ่งต้องเพิ่ม อัตราเมแทบอลิซึม เพื่อรักษาสมดุล  ระหว่างอุณหภูมิปกติ ของร่างกาย และอุณหภูมิภายนอก เอาไว้ อย่างไร ก็ตามเมแทบอลิซึม หรือการเผาผลาญอาหารนี้  ต้องอาศัยพลังงาน ซึ่งปกติได้มา จากอาหาร แต่ในฤดูหนาว  อาหารมักจะขาดแคลน แพรรี่ปากเป็ด จึงต้องดึงไขมันที่สะสม ไว้ในหางมาใช้ แพรรี่ปากเป็ดใช้ ระบบหมุนเวียน โลหิตมาช่วยลำเลียง ความร้อน ความร้อนที่ได้  จากการ  เผาผลาญอาหาร จะลำเลียงผ่าน เส้นเลือด  ไปสู่อวัยวะ และลดการ  หมุนเวียนไปยังส่วน  ที่ไม่จำเป็นร้อนไว้  ได้มากก็คือขนหนานุ่ม  ของมันนั่นเอง นอกจาก กันน้ำแล้ว ยังเป็นฉนวนกัน  ไม่ให้ความร้อนระบาย  ออกจากร่างกาย  ได้อีกด้วย นับว่า  สัตว์ชนิดนี้ มีผ้าห่มกันหนาว ที่ดีเยี่ยมเลยทีเดียว

ตุ่นปากเป็ด สัญญาณเตือน ที่ใกล้จะสูญพันธุ์

มีภัยแล้ง ที่ยาวนานขึ้น และผลกระทบอื่น ๆ จากการเปลี่ยนแปลง ของสภาพภูมิอากาศ กำลังผลักดันให้ แพรรี่ปากเป็ด สัตว์ที่เป็นเอกลักษณ์  ของประเทศออสเตรเลีย มีจำนวนลดลง  จนอาจนำไปสู่การสูญพันธุ์ โดย แพรรี่ปากเป็ด  ซึ่งเป็นสัตว์  ที่อาศัยอยู่ตามแม่น้ำ  ได้ลดลงถึงร้อยละ 50  จากชายฝั่งตะวันออก  ของประเทศออสเตรเลีย เนื่องจากภัยแล้ง การถางที่ดินมลพิษ และการสร้าง เขื่อน  ซึ่งเป็น ที่อยู่อาศัย ของ แพรรี่ปากเป็ด จากการศึกษามา ว่าสัตว์ชนิดนี้ ลดลง จนเหลือแค่เพียง 2 แสนกว่าตัวเท่านั้น  และมีช่วง ที่เกิดไฟป่า ครั้งยิ่งใหญ่ จากภัยแล้ง มีอุณหภูมิที่สูงมาก เป็นประวัติการณ์ และได้เผาทำลาย พื้นที่ทางตะวันออก  ของประเทศออสเตรเลีย  เป็นวงกว้าง โดย แพรรี่ปากเป็ดนั้น เป็นสัตว์  เลี้ยงลูกด้วยนม เพียงชนิดเดียว ที่ออกลูกเป็นไข่ และเป็นหนึ่ง ในสัตว์ที่แปลก  ประหลาดที่สุดในโลก โดยมีปาก เหมือนเป็ด หาง เหมือนบีเวอร์ เท้าเหมือน นาก มีเดือยพิษที่หลังขา และการค้นพบครั้งล่าสุด จากนักวิจัยคือ แพรรี่ปากเป็ด สามารถเรืองแสง ด้วย UV ได้อีกด้วย มนุษย์ทำลาย ธรรมชาติ เกิมลพิษ ภาวะโลกร้อน นั่นจึงเป็นสาเหตุ ที่ภายในหลายๆปี ข้างหน้า แพรรี่ปากเป็ด อาจจะสูญพันธุ์ได้ ในที่สุด

เป็นยังไงบ้างคะทุกคน พอได้อ่านบทความ ของตุ่นปากเป็ด ทุกท่านอย่าลืม ติดตามข่าวสาร จากเว็บ Songkhao กันนะคะ มีข่าวสารอัพเดท หลากหลายหมวด ให้ทุกท่านได้เข้าไป ศึกษาหาข้อมูล

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *